เตือนภัย หญิงสาวอาจตกเป็นเหยื่อโปรโมชั่นทำหน้าฟรี โดยสร้างเงื่อนไขให้ลูกค้ายื่นบัตรเครดิต-บัตร ปชช. เอาไปรูดแกมบังคับใช้ลูกค้าเซ็นผ่อนจ่าย

ตามห้างสรรพสินค้าก็มักจะเจอกลุ่มคนที่ยืนรอดักหญิงสาวพยายามชักชวนว่าทางร้านมีโปรโมชั่นทำหน้าฟรี แต่เคสนี้นี้ถือเป็นกรณีตัวอย่างที่โดนกับแฟนผมเองที่มีแพลนจะแต่งงานกันในปลายปีนี้ จึงตกเป็นเหยื่อ

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 26 มิ.ย.65 ที่ห้างแห่งหนึ่งในย่านเพชรเกษม มีพนักงานตุ้งติ้งคนหนึ่งวิ่งมาบอกกับแฟนผมว่า“พี่ช่วยลงชื่อให้ผมหน่อย ผมใกล้จะเลิกงานแล้วจะกลับบ้าน ทางร้านมีโปรฯ พิเศษ ให้ทำทรีเม้นท์หน้าฟรี 1 ครั้ง ขอดูบัตรเครดิตว่ามีเลข 3 และ 7 ของธนาคารที่ร่วมรายการ และบัตรประจำตัวประจำตัวประชาชน”

แฟนผมใจอ่อนเดินตามไปแล้วยื่นบัตรเครดิตและบัตรประชาชนให้ดู ทันใดนั้นพนักงานก็หยิบไปจากมือแล้วส่งต่อให้พนักงานอีกคนวิ่งเข้าไปในร้าน พร้อมกับคะยั้นคะยอให้แฟนผมเดินเข้าไปทำหน้าด้านใน

โดยที่แฟนผม ได้พยายามขอบัตรเครดิตและบัตรประชาชนแล้ว แต่ไม่ได้คืน ก่อนที่จะเข้าไปทำทรีตเม้นท์ด้านในราว15 นาที 

ในระหว่างนั้นแฟนก็ถูกชักชวน หว่านล้อมให้ทำหน้า ลบรอยกระ ทำโกจิเบอรี่ (หน้าใสลบเลือนจุดด่างดำ) และฉีดลดเหนียงที่คอ รวมเป็นเงิน 12,000 บาท สามารถใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระนาน 6 เดือน ซึ่งพนักงานคนนี้ยืนยันว่า ราคาถูกมากเพราะจะให้ทำเป็นเคสตัวอย่างโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของร้านทั้งก่อนและหลังใช้บริการ 

แต่แฟนผมบอกว่า ระยะเวลาผ่อนชำระสั้นไป น่าจะสัก 10 เดือน พนักงานจึงบอกว่า ขอสอบถามผู้จัดการร้านก่อน (ยังไม่ตกลงกัน) เพราะแฟนผมบอกว่า รอถามผมก่อนเพื่อให้ช่วยตัดสินใจ ในตอนนั้นผมเดินไปดูคิวจองโต๊ะร้านอาหารกับครอบครัว

กระทั่งผมกลับมาหาแฟน ซึ่งทำทรีตเม้นหน้าเสร็จ ผมจึงบอกย้ำกับทางร้านว่า ยังไม่ตัดสินใจ แต่ขอรายละเอียดและเบอร์โทรของร้านไว้เพื่อรอปรึกษากันอีกครั้งว่าจะซื้อคอร์สทำหน้าของร้านหรือไม่ 

แต่พนักงานคนที่ชักชวนแฟนเข้าไปตอนแรก อ้างว่า แฟนได้ตกลงซื้อคอร์สแล้ว แล้วนำบัตรเครดิตของแฟนไปรูดพร้อมออกใบเสร็จแกมบังคับให้แฟนเซ็นชื่อ ราวกับโดนมนตร์สะกด โดยท่ีใบเสร็จระบุไว้ว่า “งดคืนเงิน” 

ผมสงสัยว่า ในเมื่อยังไม่ตัดสินใจซื้อคอร์สทำหน้า แล้วแฟนไปเซ็นทำไม จึงทะเลาะกัน

แต่แฟนผม บอกว่า คิดว่าเขารูดเงินไปแล้วจึงต้องจำยอมเซ็นชื่อไป ทั้งที่ตัวเองก็ไม่อยากทำ พอไปขอเงินคืนกับทางร้านก็ไม่ได้ 

ทางผู้จัดการร้านอ้างว่า ปิดระบบคืนเงินไปแล้ว แต่จะเยียวยาให้ลองทำคอร์สอื่นแทนได้ไหน หรือถ้าจะยกเลิกก็ไม่ได้เงินคืน แต่จะตักเตือนพนักงานที่ทำผิด เอาบัตรเครดิตและบัตรประชาชนลูกค้าไปแล้วไม่คืนก่อนนำไปรูดเงิน

สุดท้ายแฟนผมจำต้องซื้อคอร์สทำหน้า โดยที่ทำอะไรไม่ได้ 

ปล.ผมยินดีที่จะให้แฟนทำหน้าก่อนแต่งงาน ฉะนั้นงดดราม่าในเรื่องนี้ แต่ที่มาเตือนหญิงสาวทั้งหลายคือวิธีการของพนักงานที่พยายามใช้ช่องว่างจากเงื่อนไขที่ต้องแสดงบัตรเครดิตและบัตรประชาชนก่อนจึงจะได้รับโปรโมชั่นทำหน้าฟรี 1 ครั้ง เป็นช่องว่างให้พนักงานหรือร้านบางร้านใช้เป็นเครื่องมือในการขายคอร์สทำหน้าโดยที่ลูกค้าตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว