7 วันอันตรายวันแรก“เมาแล้วขับ”ยังได้แชมป์
โฆษกศาลยุติธรรมเผยสถิติคดี พ.ร.บ. จราจรทางบก วันแรก ช่วง 7 วันอันตรายปีใหม่ 64 ลดลง แต่เมาแล้วขับยังอันดับ 1
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยข้อมูลสถิติคดีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2564 (29 ธันวาคม2563 – 4 มกราคม 2564)
ซึ่งศูนย์ข้อมูลคดี สำนักแผนงานและงบประมาณ สำนักงานศาลยุติธรรม ได้เก็บรวบรวมข้อมูลในแต่ละวันในช่วงเวลา08.30 – 16.30 น. โดยภาพรวมวันแรก (29 ธันวาคม 2563) พบว่า
ในกลุ่มศาลอาญา ศาลจังหวัด และศาลแขวง มีจำนวนคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาทั้งสิ้น 210 คดี จำนวนคดีที่พิพากษาแล้วเสร็จ 152 คดี (คิดเป็นร้อยละ 72.38)
โดยข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุด
- เมาแล้วขับ 132 คน
- ขับรถขณะเสพยาเสพติด 44 คน
- ขับรถโดยประมาท 10 คน
- ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต 9 คน
ทั้งนี้ จากผลคำพิพากษา ศาลได้พิจารณาลงโทษผู้กระทำความผิดมีทั้งจำคุก, ปรับ, ทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงการรอการลงโทษ
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบสถิติความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ที่เข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักรในวันแรกของช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2563 และ พ.ศ. 2564 พบว่า
จำนวนคดีที่ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลในกลุ่มศาลอาญา ศาลจังหวัด และศาลแขวง ในปี พ.ศ. 2563 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 1,865 คดี
เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2564 แล้วลดลง 1,655 คดี (คิดเป็นร้อยละ 88.74)
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ถึงแม้สถิติคดีในช่วงวันแรกของ 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่นี้จะลดลง ซึ่งคาดว่าอาจจะเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 และหลายจังหวัดใช้มาตราการเข้มงวดและขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดช่วงหยุดปีใหม่เพื่อหวังช่วยควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด แต่จากสถิติคดีก็จะเห็นได้ว่าเมาแล้วขับยังเป็นข้อหาที่มีผู้กระทำความผิดสูงสุดเช่นเดิม จึงทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น จึงฝากอยากความห่วงใยถึงประชาชนทุกคนให้ขับขี่ด้วยความระมัดระมัดไม่ประมาท ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และนอกจากการคำนึงถึงความปลอดภัยทางท้องถนนแล้ว การเดินทางข้ามจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ประชาชนยังควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพอนามัยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังเกิดการระบาดระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในขณะนี้