“ธนกร”จวก”พิธา”อย่าอวดเก่งกว่าอาจารย์หมอ ชี้ต้องเชื่อมั่นระบบสาธารณสุขของไทย เหน็บฝ่ายค้านจ้องแต่จะเล่นการเมืองจนไม่รู้จักจังหวะเวลา ทำประชาชนเบื่อหน่าย
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล วิพากษ์วิจารณ์การแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า นายพิธามีสิทธิเสรีภาพที่จะวิจารณ์ได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง นายพิธาไม่ใช่หมอ แต่อวดเก่งยิ่งกว่าอาจารย์หมอ ฟังแล้วเก่งกว่าศาสตราจารย์ นพ.ยง ภู่วรวรรณ เสียอีก อย่าแค่อ่านหนังสือมา การเสนอแนะหากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสามารถทำได้ แต่ไม่ควรติติงหรือบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน
โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารจัดการโควิด-19 ผ่านศบค.อย่างเป็นระบบ มีระดับอาจารย์หมอที่เชี่ยวชาญเป็นที่ปรึกษา ทุกอย่างผ่านการกลั่นกรองมาอย่างดี ข้อเสนอแนะนายพิธาหลายอย่างรัฐบาลทำอยู่แล้ว แต่หลายอย่างก็วิจารณ์แบบหวังผลทางการเมือง บิดเบือนข้อมูล ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้ไม่ควรทำ เพราะมันคือความทุกข์ร้อนของประชาชน ทำให้ประชาชนตื่นกลัว
ในส่วนของวัคซีนป้องกันโควิด-19ก็เช่นกัน พอรัฐบาลเปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดหา นายพิธาก็บอกว่าผลักภาระให้เอกชน พอเอกชนมีส่วนร่วมน้อย ส.ส.พรรคนายพิธาก็บอกว่ารัฐบาลปิดกั้นเอกชน ไม่ทราบว่านายพิธาจะเอาอย่างไรกันแน่ อย่าตั้งเป้าโจมตีพล.อ.ประยุทธ์อย่างเดียว ควรมาช่วยกันจะดีกว่า ส่วนเรื่องเตียงไม่พอนั้น ภาครัฐสั่งการให้ตั้งโรงพยาบาลสนามไว้แล้ว ทุกอย่างได้เตรียมความพร้อมไว้ทุกด้าน พล.อ.ประยุทธ์ติดตามการทำงานอยู่ตลอดเวลา ท่านเป็นห่วงประชาชนมากโดยเฉพาะช่วงสงกรานต์
นายธนกร กล่าวอีกว่า สถานการณ์เช่นนี้ตนไม่อยากเห็นฝ่ายการเมืองออกมาตำหนิติเตียนหรือด่าทอท่านนายกฯ ลูกเดียวโดยไม่สนใจอะไรเลย ทุกฝ่ายควรมาช่วยกัน รัฐบาลนี้ไม่มีการปกปิดข้อมูลประชาชนเหมือนที่นายพิธากล่าวหา อย่างไรก็ตาม ไม่อยากจะตอบโต้ไปมา เพราะประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แต่อยากชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่อยากให้ใครมาด่า พล.อ.ประยุทธ์ด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อยากขอความเป็นธรรมให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และพล.อ.ประยุทธ์บ้าง
ที่ผ่านมาเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น รัฐบาลก็ต้องมองทั้งด้านสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายเรียกร้องให้สามารถทำธุรกิจได้ ไม่อยากให้ล็อกดาวน์ รัฐบาลก็ดำเนินการพร้อมทั้งมีมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ทุกฝ่ายก็ต้องร่วมกันป้องกัน ทั้งประชาชน และผู้ประกอบการ
เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเอาชนะคะคานทางการเมือง แต่เป็นเวลาที่ต้องร่วมแรงร่วมใจกัน อย่าเล่นการเมืองจนไม่รู้จักจังหวะเวลา ประชาชนจะเบื่อหน่าย ที่ผ่านมาท่านนายกฯ ไม่เล่นการเมือง มุ่งทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติอย่างเดียวมาตลอด.