“แรมโบ้” ซัด “ฝ่ายค้าน” ไม่รับ พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้าน ค้านแบบไม่มีเหตุผล ไม่ดูเนื้อหาว่าเป็นประโยชน์ต่อชาติและประชาชน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศพรรคก้าวไกลจะไม่โหวตรับ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท รวมถึงก่อนหน้านี้นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ขอพรรคร่วมฝ่ายค้านยกมือไม่รับหลักการเช่นเดียวกัน โดยนายเสกสกล ระบุว่าไม่แปลกใจอยู่แล้วที่พรรคฝ่ายค้านจะออกมาประกาศค้านในเรื่องนี้ เพราะเป็นฝ่ายค้านจะต้องค้านทุกเรื่องอยู่แล้ว แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อประเทศชาติประชาชน ก็จะปิดหูปิดตาค้านทุกเรื่อง โดยไม่ยึดโยงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ ยังมั่นใจว่าเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลยังมั่นคงมีเสถียรภาพ รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลยังทำงานด้วยกันได้เป็นอย่างดีและมีผลงานชัดเจนมากมาย อีกทั้งไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในช่วงที่บ้านเมืองเกิดวิกฤตเดือดร้อน ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ จึงไม่มีรัฐมนตรี หรือ ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาลคิดถึงเรื่องอื่นใด นอกจากพุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและทุ่มเทเร่งทำงานช่วยให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีรายได้ ปลอดภัยจากโควิด อย่างสุดความสามารถ
ขณะที่การออกมาชี้แจงของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าหาก พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านไม่ผ่าน นายกฯ อาจจะต้องยุบสภานั้น เป็นการพูดถึงในหลักการ ไม่ได้พูดเพื่อที่จะข่มขู่ใครทั้งนั้น ส่วนการเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ก็คงเป็นความหวังอย่างเลื่อนลอยของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ต้องการเช่นนั้น แต่ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่นายกฯ จะต้องลาออก เพราะยังไงจำนวนเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลในสภาฯมีเพียงพออย่างแน่นอน ซึ่งความหวังของพรรคฝ่ายค้านน่าจะเป็นไปได้แค่ฝันค้างกลางวัน ทั้งนี้นายกฯ เองยังไม่ได้ทำผิดอะไร และยังมีเวลาอีกปีเศษๆ ก็จะครบวาระ 4 ปี ที่จะต้องทำงานให้กับบ้านเมืองโดยเฉพาะในขณะนี้ประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากโควิดอยู่ ประชาชนยังเชื่อมั่นในตัวนายกฯ ให้อยู่ต่อไป ยิ่งควรอยู่แก้ไขปัญหาวิกฤตจึงยังไม่ควรที่จะลาออกจากตำแหน่งในขณะนี้ และไม่อยู่ในความคิดของนายกฯ ที่จะหนีปัญหาอย่างแน่นอน
“ไม่แปลกใจหากฝ่ายค้านจะประกาศ ไม่โหวตรับ พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้าน เพราะต้องค้านทุกเรื่องอยู่แล้ว ค้านแบบไม่มีเหตุผลเป็นนิสัยสันดานของฝ่ายค้านในยุคนี้ แม้แต่ในสถานการณ์บ้านเมืองประเทศชาติมีความจำเป็นที่จะต้องนำงบประมาณมาใช้สำหรับแก้ไขปัญหาทั้งด้านสาธารณสุข ดูแลเยียวยาประชาชน และฟื้นฟูประเทศ ซึ่งยืนยันว่าการใช้งบประมาณจะเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ประชาชน อย่างมาก ฝ่ายค้านก็จะดันทุรังค้านแบบไม่ลืมหูลืมตา และวิพากย์วิจารณ์แบบหน้ามืดตัวมัวอยู่แล้ว จึงนำเรื่องนี้มาพูดกล่าวโจมตี ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด นายกฯ และรัฐบาล เสียหายหรือเพื่อตีกินทางการเมืองและพุ่งเป้าทำลายเครดิตรัฐบาล โตมตีนายกฯ นี่คือ พฤติกรรมฝ่ายค้านเมืองไทยในยุคนี้ ไม่มีการพัฒนาทางความคิดและเล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์เลยสักนิด จึงทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายฝ่ายค้านในยุคนี้มากกว่าทุกยุคทุกสมัย” นายเสกสกลกล่าว.