ยึดเฮโรอีน 314 กก. ยัดถังสีที่ท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมส่งออกออสเตรเลีย
กรมศุลกากร จับมือ ป.ป.ส. สกัดจับเฮโรอีน 314 กก. ยัดถังสีที่ท่าเรือแหลมฉบัง เตรียมส่งออกออสเตรเลีย เตรียมขยายผลสาวไปยังตัวการ หวังทลายเครือข่ายให้สิ้นซาก
วันนี้ (6 ก.ค.64) เวลา 14.00 น. ที่ที่กรมศุลกากร มีการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดประเภทเฮโรอีนซุกซ่อนในถังสีอะคริลิก เตรียมส่งประเทศออสเตรเลีย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายพชร อนันตศิลป์อธิบดีกรมศุลกากร ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงลคล เลขาธิการ ป.ป.ส. และพล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รอง ผบช.ปส. ร่วมแถลงข่าว
นายพชร กล่าวว่า กรมศุลกากรเฝ้าระวังติดตามสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะมีการลักลอบนำยาเสพติดไปต่างประเทศ จึงมอบให้หน่วยงานในความรับผิดชอบเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้า โดยเมื่อวันที่ 5 ก.ค. สำนักงานศุลกากร ท่าเรือเแหลมฉบัง พบสินค้าที่มีความน่าสงสัย เตรียมส่งออกไปยังออสเตรเลีย เป็นสีอะคริลิกบรรจุถังพลาสติกสีฟ้า 135 ถัง และสีอะคริลิกบรรจุถังสีม่วง 135 ถัง
เมื่อเปิดตรวจสอบพบว่ามีกล่องพลาสติกสีในห่อด้วยเทปพลาสติกสีน้ำตาลน้ำหนักประมาณ 2.4 กิโลกรัม/ห่อ ตรวจสอบเบื้อต้นด้วยเทสคิท บ่งบอกเป็นเฮโรอีน 134 หีบห่อ น้ำหนัก 314.63 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 943.89 ล้านบาท ซึ่งจะนำหลักฐานและผู้ต้องหาไปดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้กรมศุลกากรได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประเทศต่างๆ ดำเนินการสกัดกั้นการส่งออกยาเสพติดไปต่างประเทศอย่างเข้มงวด
นายสันติ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณ กรมศุลกากร ป.ป.ส. กรมสอบสวนคดีพิเศษ บช.ปส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการร่วมมือกันสกัดกั้นยาเสพติดไปต่างประเทศ เป็นความรอบครอบและความสามารถที่ตรวจสอบตรวจพบ โดยกรมศุลกากรมีเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่สามารถเอ็กซ์เรย์ผ่านตู้คอนเทนเนอร์ได้ แต่ผู้ที่ลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมายจะทำรูปแบบต่างๆ แต่ด้วยความตั้งใจทำงานของเจ้าหน้าที่ทำให้เราวิเคราะห์จับเฮโรอีนในครั้งนี้ได้อย่างมหาศาล ทำให้ภาพลักษณ์ของไทยว่าเราเอาจริงเอาจังเข้มงวดเป็นอย่างยิ่งในการตรวจสอบและปราบปราม และเราคงต้องตามให้ถึงที่สุด
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทน รมว.ยุติธรรม เรื่องนี้เป็นความคืบหน้าของการทำงานในหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานจากต่างประเทศ ครั้งนี้ถือว่ามียาเสพติดจำนวนมาก โดยป.ป.ส. จะสืบสวนขยายผลต่อเพื่อสืบสาวให้ถึงตัวบงการ
นายวิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการร่วมมือของหน่วยงาน SITF ประกอบด้วย กรมศุลกากร ป.ป.ส บช.ปส. และทหาร ซึ่งการสกัดกั้นในปีนี้เรายึดได้ถึง 1.8 ตันแล้ว และเราได้ขยายผลติดตามผู้ร่วมขนส่งได้แล้ว กำลังสืบสาวไปยังผู้แพ็คส่งและจุดที่มา และได้ประสานกับ สถานทูตออสเตรเลียในการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้รับต่อไป รวมทั้งจะสืบสาวไปยังเครือข่ายนี้ ซึ่งเราพอมีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว
พล.ต.ต.สุศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ร่วมให้เบาะแส ทำให้สามารถจับกุมครั้งนี้ ตนก็ขอให้เราช่วยกันให้เบาะแสกันต่อไปเพื่อให้การปราบปรามยาเสพติดสัมฤทธิ์ผล