“รมว. สุชาติ” ตรวจความพร้อมสถานที่คัดกรองโควิดผู้ประกันตน-ปชช.ทั่วไป สนามไทย-ญี่ปุ่น เริ่ม 12 ก.ค.นี้
วันที่ 11 กรกฎาคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของสถานที่บริการตรวจคัดกรองเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เชิงรุก ตามโครงการแรงงาน…เราสู้ด้วยกัน สำหรับผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไป ในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร
นายสุชาติกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัวโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระลอกใหม่ครั้งนี้ ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงจำเป็นจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ขณะนี้หลายโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนเกิดความแออัด ต้องรอคิวนาน และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไปให้ได้รับการตรวจอย่างรวดเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม (สปส.) บูรณาการร่วมกับ กระทรวงมหาดไทย (มท.) โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจโควิด-19 เชิงรุก ให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และมาตรา 40 และประชาชนทั่วไป ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น)
นายสุชาติกล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อจองคิวตรวจของผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเว็บไซต์กูเกิล แล้วพิมพ์คำว่า “แรงงานเราสู้ด้วยกัน” หรือคลิกที่ลิงก์นี้ https://sso.icntracking.com/icntracking/self_register.php กรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือเลขพาสปอร์ต กรอกข้อมูลประเมินความเสี่ยงตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งเป็นบุคคลที่มีกลุ่มเสี่ยง หรือมีอาการป่วย ผู้ประกันตนจะต้องพกบัตรประชาชน พร้อมสำเนา 1 ชุด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการตรวจ หากรายใดลงทะเบียนแล้วไม่มาตรวจตามนัดจะต้องลงทะเบียนใหม่ เมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เรียบร้อยแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันที ทางโรงพยาบาลจะแจ้งผลการตรวจคัดกรองโควิด 19 ผ่าน 3 ช่องทาง คือ QR Code ทาง SMS และทางโทรศัพท์
“กรณีที่ผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับผลการตรวจคัดกรอง อาจเนื่องจากกรอกหมายเลขโทรศัพท์ไม่ถูกต้อง สามารถโทรสอบถาม 1506 กด 6 การลงทะเบียนออนไลน์เริ่มเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยแต่ละวันสามารถตรวจได้วันละ 2,000 คน แบ่งเป็น ช่วงเช้า 1,000 คน ช่วงบ่าย 1,000 คน ซึ่งหากตรวจแล้วพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการจะถูกส่งเข้ารักษาตัวในฮอสปิเทล (Hospitel) ส่วนผู้ที่มีอาการจะถูกส่งไปรักษายังโรงพยาบาลในเครือประกันสังคม ซึ่งจะมีทีมแพทย์และพยาบาลดูแล ส่วนค่ารักษาพยาบาลผู้ประกันตนจะเบิกกับสำนักงานประกันสังคม และประชาชนทั่วไปจะเบิกกับ สปสช. ทั้งนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนให้คำปรึกษาผู้ประกันตนและประชาชนทั่วไปตรวจโควิด-19 เชิงรุก โทร 1506 กด 6” นายสุชาติกล่าว.