กทม. ชวนคนกรุงฯ ร่วม Big Cleaning Day 31 ส.ค.นี้

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร มีมติเห็นชอบปรับมาตรการตามข้อกำหนดเพื่อให้กิจการ/กิจกรรม สามารถเปิดดำเนินการได้ ในวันที่ 1 ก.ย. 64 โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา การจัดระบบ ระเบียบ และมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด รวมทั้งมาตรการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน ตลอดจนผู้ให้บริการ และผู้รับบริการ ทั้งในสถานประกอบการ ห้าง/ร้าน ตลาด และตามสถานที่สาธารณะต่างๆ นั้น กรุงเทพมหานครขอเชิญชวนหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ/ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day สถานที่ของตนเองโดยพร้อมเพรียงกัน

ทั้งนี้ ในส่วนของกรุงเทพมหานคร จะจัดกิจกรรมล้างทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะทั่วกรุงเทพฯ ในวันที่ 31 ส.ค. 64 เวลา 03.30 น. โดยร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต 50 เขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถน้ำพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ ระดมฉีดล้างทำความสะอาด และฆ่าเชื้อบริเวณสถานที่สาธารณะ อาทิ ถนน ทางเท้า ศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง สวนสาธารณะ เป็นต้น โดยจะร่วมกันดำเนินการล้างทำความสะอาดและดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลาย

สำหรับวิธีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวในสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ทำความสะอาด จะต้องป้องกันตนเองด้วยการใส่แว่นตาป้องกัน สวมหมวกคลุมผม หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ถุงมือยาง ผ้ากันเปื้อนแบบยางหรือพลาสติก และรองเท้าบู๊ตส์ โดยเริ่มจากการทำความสะอาดเพื่อล้างสิ่งสกปรกออกก่อน ขั้นตอนต่อไปจึงทำการฆ่าเชื้อโรคบริเวณพื้นผิว ด้วยสารฆ่าเชื้อ ซึ่งมีสาร 3 ชนิดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าสามารถกำจัดเชื้อโควิด-19 ได้แก่ 1.โซเดียมไฮโปคลอไรท์ หรือน้ำยาซักผ้าขาว ความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ 2.ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือน้ำยาซักผ้าสี ความเข้มข้น 0.5 เปอร์เซ็นต์ 3.แอลกอฮอล์ ความเข้มข้น 70 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อโรคให้ได้ความเข้มข้นดังกล่าว

ตัวอย่างการผสมน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ความเข้มข้น 6 เปอร์เซ็นต์ ขนาดบรรจุ 600 มิลลิลิตร โดยผสมให้ได้ความเข้มข้น 0.1 เปอร์เซ็นต์ นั้น ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ 2 ฝา หรือ 20 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 1 ลิตร และใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดตามบริเวณที่มีการสัมผัสหรือใช้งานร่วมกันบ่อยๆ เช่น ลูกบิดประตู โต๊ะ เก้าอี้ รีโมทคอนโทรล ราวบันได เป็นต้น หากเป็นสิ่งของหรือของใช้ขนาดเล็กแนะนำให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ได้ โดยขณะทำความสะอาดให้เปิดประตู หน้าต่างเพื่อระบายอากาศ และให้แดดส่องทั่วถึงภายในบ้านหรือสถานประกอบการ ทั้งนี้ เมื่อทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ถอดอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ล้างมือ ชำระร่างกายให้สะอาด และเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้ง

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อทุกคนยังต้องปฏิบัติตามการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขั้นสูงสุด แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) อย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.ออกจากบ้านเมื่อจําเป็นเท่านั้น 2.เว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่ 3.สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คน 4.ล้างมือบ่อๆ ด้วยสบู่หรือแจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอจาม หรือสัมผัสวัตถุ/สิ่งของ ที่ใช้ร่วมกัน 5.หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จําเป็น 6.ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จําเป็น (น้อยครั้งและใช้เวลาสั้นที่สุด) 7.ทําความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อยๆ ทั้งของใช้หรือสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพ 8.แยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น 9.เลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสํารับ หากทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัว 10.หากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ที่อาจติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK บ่อยๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน

ทั้งนี้ การอยู่ใกล้ผู้อื่นโดยไม่มีสิ่งป้องกันเป็นความเสี่ยงต่อการติดโรคได้ตลอดเวลา จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตนตามแนวคิดเรื่องการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ดังกล่าวอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยังมีความเสี่ยงสูงในขณะนี้ เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19.