“อนุทิน” พอใจฉีดวัคซีนแตะ 98 ล้านโดส หวังปี 65 ฉีดเด็กต่ำกว่า 12 ปี ย้ำ “โอมิครอน” พบในระบบการคัดกรอง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงทิศทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 และความน่ากังวลของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนว่า ประเทศไทยมีวัคซีนหลากหลายชนิดและเพียงพอต่อการให้บริการ สำหรับยอดการฉีดวัคซีนที่ช่วงนี้ชะลอตัวลงไป เพราะที่ผ่านมาประชาชนจำนวนมากได้รับวัคซีนไปแล้ว จำนวนการฉีดจึงน้อยลงตามลำดับ นอกจากนั้น ยังมีประชาชนกลุ่มที่ลังเล ในการมารับบริการ จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจถึงประโยชน์ของการรับวัคซีน ซึ่งประเทศไทย ต้องการให้บริการวัคซีนอย่างครอบคลุมมากที่สุด
“ตอนนี้เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปได้รับวัคซีนแล้ว ส่วนเด็กที่อายุต่ำลงมาต้องขอดูผลการศึกษาระดับนานาชาติก่อน หากมีวัคซีนสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ เราพร้อมจัดหามาให้บริการ จากข้อมูลน่าจะได้วัคซีนตัวดังกล่าวในปี 2565 สำหรับปัจจุบันการที่ฉีดได้ถึงตัวเลข 98 ล้านโดส ก็น่าพอใจ อย่างไรเสีย เราบรรุลเป้าหมาย 100 ล้านโดสในปีนี้แน่นอน” นายอนุทินกล่าวและว่า
ปี 2565 จะเป็นปีของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ปัจจุบันเดินหน้าไปแล้ว แต่ในปีหน้า จะฉีดกันอย่างกว้างขวาง คำว่าเข็มกระตุ้น เราไม่ได้จำกัดแค่เข็ม 3 แต่เราหมายถึงเข็ม 4–5 ด้วย หากพบว่าประชาชนภูมิคุ้มกันลดลง ก็ต้องหาทางบูสต์ให้สูงขึ้น ประเทศไทยได้สำรอง งและจองวัคซีน พร้อมกับคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ ทั้งนี้ ในการทำสัญญากับทางผู้ผลิตวัคซีน เราได้ให้เงื่อนไขเรื่องเปลี่ยนตัววัคซีนกับทางผู้ผลิตไปด้วย เมื่อทางผู้ผลิต คิดค้น วัคซีนตัวใหม่ได้สำเร็จ เราสามารถเลือกนำเข้าวัคซีนตัวดังกล่าวได้เลย
นายอนุทินยังย้ำว่า โควิดสายพันธุ์โอมิครอนเป็นการพบในระบบการคัดกรอง และได้จัดการตามกระบวนการแล้ว สำหรับวัคซีนที่ไทยนำมาฉีดให้ประชาชนมีประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิตได้เกือบ 100% ดังนั้นจึงต้องขอวิงวอนให้ประชาชนรักษามาตรการเว้นระยะห่าง ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ ขอให้ตั้งการ์ดกันพอสมควร หากมีการรวมกลุ่ม ก็ขอให้ช่วยกันคัดกรองด้วย
“ตอนนี้เราไม่มีเคอร์ฟิวแล้ว หลายกิจกรรมกำหนดให้เฉพาะผู้ที่ตรวจ ATK เท่านั้นถึงจะเข้าร่วมได้ ร้านอาหารขอดูเอกสารการรับวัคซีน มาตรการเหล่านี้ช่วยลดการระบาดได้มาก สำหรับเทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลแห่งความสุข แต่ละจังหวัดจะมีมาตรการเป็นของตัวเอง ขึ้นกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณา เพื่อให้การวางกรอบสอดคล้องกับสถานการณ์ของพื้นที่” นายอนุทินกล่าว.