“ปวีณา” พา “นักศึกษาปี1” เข้าพบ ผกก.ลำลูกกาเร่งล่าคนร้ายดักฉุดไปข่มขืน
น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 เวลาประมาณ 21.00 น. หลังเลิกงานพาร์ทไทม์ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ได้ขี่รถจักรยานยนต์ (จยย.) กลับบ้าน โดยใช้เส้นทางลัดทางคลองแอน 8 ซึ่งใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ เมื่อขับมาถึงบริเวณกลางทางคลองแอน 8 ก่อนถึงสี่แยกมุ่งหน้าไปทางวัดดอนใหญ่ สังเกตว่ามีรถกระบะสีดำยกสูงขับตามหลังมา และขับมาปาดหน้าเมื่อหยุดรถมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน รูปร่างอ้วน 1 คน ผอม 1 คน ผิวดำแดง อายุประมาณ 30 ปี ลงมาจากรถกระบะและบังคับขู่ให้ขึ้นรถกระบะ จากนั้นคนร้ายรูปร่างผอมได้ขี่ จยย.ของ น.ส.ก้อยตามรถกระบะไป
น.ส.ก้อยถูกบังคับให้นั่งอยู่กับคนร้ายรูปร่างอ้วน ยกมือไหว้ขอชีวิตว่า พี่อย่าทำอะไรหนูเลย ปล่อยหนูไป ถ้าพี่อยากได้อะไรให้พี่เอาไปเลย คนร้ายแสดงท่าทีไม่พอใจและพูดว่าเริ่มหงุดหงิดแล้วนะถามเยอะเดี๋ยวจะไม่ได้กลับบ้าน ด้วยความกลัวถูกฆ่าจึงไม่กล้าที่จะขัดอะไรมาก เมื่อขับมาถึงบริเวณเส้นทางคลอง 9 ระหว่างวัดสมุหราษฎร์กับวัดลันนา คนร้ายได้ขู่ให้เอาแมสก์ปิดตาไว้เพื่อไม่ให้เห็นทางอยู่นาน เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อนที่ขี่ จยย.ตามมาให้รออยู่ที่ทางโค้ง แต่ไม่รู้ว่าโค้งตรงไหน จากนั้นคนร้ายให้ลงมาจากรถกระบะและให้จับบ่าคนร้ายเดินเข้าไปห้ามเปิดแมสก์คนร้ายใช้กุญแจเปิดห้องและให้นั่งลง พร้อมทั้งได้ยินเสียงคนร้ายคล้ายกับดมอะไรสักอย่างก่อนลงมือข่มขืน
ตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะสั่นกลัวไปหมดได้แต่ร้องไห้และยกมือไหว้ขอชีวิตแต่คนร้ายก็ไม่ยอม หลังจากที่ข่มขืนเสร็จ คนร้ายออกไปนอกห้องและได้ยินเสียงรถ จยย.มาจอด จึงแอบเปิดแมสก์ดูภายในห้อง สังเกตเห็นว่ามีที่นอนกับพัดลม ส่วนสิ่งของอื่นมีแต่ต้องรีบปิดแมสก์เพราะกลัวคนร้ายจะมาเห็น จากนั้นคนร้ายได้พาออกมาจากบ้านและให้ขึ้นไปนั่งบนรถกระบะเหมือนเดิม ก่อนนำมาปล่อยทิ้งไว้บริเวณโรงปูนคลอง 9 เวลาประมาณ 22.50 น. และยึดโทรศัพท์กับเงินในกระเป๋าที่มีติดตัวกว่า 300 บาท
จากนั้นคนร้ายได้จดเบอร์โทรศัพท์ให้ น.ส.ก้อย พร้อมกับบอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้โทรศัพท์ไปหา หากต้องการโทรศัพท์คืนก่อนให้เปิดแมสก์ ส่วนคนร้ายอีกคนขี่รถ จยย.มาคืนให้ แต่ไม่รู้ทางคนร้ายบอกให้ขับเลี้ยวซ้ายไปตามทางจนเจอป้ายวัดดอนใหญ่และขับเลียบคลองมากระทั่งมาออกเส้นทางธัญบุรีคลอง 8
เวลาประมาณ 23.12 น. จึงได้ไปขอยืมโทรศัพท์ร้านก๋วยเตี๋ยวโทรแจ้งแฟนและแม่ทราบ พาเข้าแจ้งความทันที ซึ่งตอนนี้สภาพจิตใจย่ำแย่และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังฝังอยู่ในใจจนทุกวันนี้ กลัวไม่กล้าออกไปไหนคนเดียว เพราะยังตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีไม่ได้เกรงจะเป็นอันตราย จึงมาติดต่อมูลนิธิปวีณาฯ ให้ช่วยเหลือด้วย
หลังรับแจ้งนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้พา น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) ไปพบ พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.ลำลูกกา เพื่อให้ปากคำและหลักฐานเพิ่มเติม และเร่งติดตามตัวคนร้ายทั้ง 2 คน มาดำเนินคดี
นางปวีณากล่าวว่า เส้นทางนี้เปลี่ยวและมืดมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาติดไฟ กล้องวงจรปิดให้ปลอดภัย.