DSI สนธิกำลังเข้ายึดเหล้า-บุหรี่เถื่อน หนีภาษีกว่า500ล้าน
กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวที่แจ้งเบาะแสว่ามีขบวนการลักลอบนำสินค้าเข้าราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงภาษีในพื้นที่จังหวัดสงขลา จึงได้ดำเนินการสืบสวนพบกลุ่มบุคคลลักลอบนำสินค้าบุหรี่และสุราเถื่อนต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษีตามกฎหมาย อันเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ และส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐ
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะกำกับดูแล สั่งการให้นายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผู้อำนวยการกองคดีความมั่นคง นายมเหสักข์ พันธ์สง่า ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษภาค และนายณัฐพล เนตรพุกกณะ ผู้อำนวยการส่วนคดีความมั่นคง 2 พร้อมด้วยคณะพนักงานสืบสวน ลงพื้นที่เข้าตรวจค้นและยึดของกลางในพื้นที่ต้องสงสัย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต เจ้าหน้าที่ศุลกากร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานฝ่ายปกครอง นำหมายค้นของศาลจังหวัดสงขลา เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์และโกดังเก็บสินค้าผิดกฎหมาย จำนวน 3 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสงขลา จากการตรวจค้นสามารถตรวจยึดสินค้าบุหรี่ต่างประเทศ จำนวน 851,460 ซอง คิดเป็นมูลค่าภาษีประมาณ 50 ล้านบาท คิดเป็นประมาณการค่าปรับประมาณ 500 ล้านบาท สุราต่างประเทศ จำนวน 3,296 ขวด คิดเป็นมูลค่าภาษีประมาณ 9 แสนบาท ประมาณการค่าปรับประมาณ 9 ล้านบาท ไพ่ป๊อก 3,168 สำรับ คิดเป็นมูลค่าภาษีประมาณ 5 หมื่นบาท ประมาณการค่าปรับประมาณ 5 แสนบาท ที่ลักลอกนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิได้เสียภาษีและมิได้ผ่านพิธีทางศุลกากร รวมเป็นมูลค่าความเสียหายที่รัฐสูญเสียไปกว่า 560,450,000 ล้านบาท (ห้าร้อยหกสิบล้านสี่แสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยคณะพนักงานสืบสวนจะขยายผล และติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
กรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งมั่นที่จะดำเนินคดีความผิดกับผู้กระทำความผิดในการลักลอบนำเข้าสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของประชาชนให้บริโภคสินค้าที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน อีกทั้งเพื่อก่อให้เกิดความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี ปกป้องสังคมและเพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐ.