ครม.อนุมัติ 10 มาตรการบรรเทาความเดือดร้อน “มหาวิกฤติโลก”

ท่ามกลาง “มหาวิกฤติโลก” ทั้งโควิดและความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่กินเวลาต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้ทุ่มเทความพยายามเพื่อบรรเทาความเดือนร้อน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายรายวัน และลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชน “ทุกกลุ่ม” ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เช่น ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ ลดเงินสมทบผู้ประกันตน ลดค่าเทอม รวมทั้งเพิ่มเงินในกระเป๋า ผ่านโครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ และอุดหนุนเงินดูแลกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ถือบัตรสัวสดิการแห่งรัฐ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงๆ

ปัจจุบันมหาวิกฤติทั้ง 2 ที่ซ้ำเติมชาวโลกและชาวไทย ยังคงส่งผลกระทบอยู่ โดยยากที่จะคาดเดาว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในทุกมิติ พร้อมกับหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับคลอดมาตรการช่วยเหลือรอบใหม่ “เพิ่มเติม” และควบคู่กับมาตรการเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ล่าสุด ซึ่งมาตรการเร่งด่วนครั้งนี้ ครอบคลุม 3 เดือน (พฤษภาคม – กรกฎาคม 2565) ประกอบด้วย

1.เพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (3.6 ล้านคน) จากเดิม 45 บาม/เดือน เป็น 100 บาท/เดือน

2.ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค่าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (5,500 คน)

3.ช่วยเหลือค่าน้ำมันแก๊ซโซฮอลล์ 250 บาท/เดือน ให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก (157,000 คน) โดยให้คงอัตราค่าบริการไว้ด้วย

4.คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม

5.คงราคาค่าก๊าซที่ราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม สำหรับผู้ขับขี่แท๊กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน

6.ลดภาระค่าไฟฟ้า สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย/เดือน (ช่วงพฤษภาคม – สิงหาคม 2565)

7.ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเมษายน 2565

8.พยุงราคาก๊าซหุงต้มโดยกองทุนน้ำมัน เพื่อไม่ส่งผลกระทบรุนแรงและอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน – มิถุนายน 2565

9.ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและลูกจ้างในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1%

10.ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 9% เหลือ 1.9% และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42 – 180 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ จะมีการพิจารณาปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลก เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.