หนุ่มขี้ยาใช้ปืนจี้กักขังเมียที่ขอเลิกเพราะทนถูกซ้อมพร้อมกับลูกอีก 2 คนไม่ไหว แม่ยายจึงร้องปวีณา ประสานตำรวจจับยึดอาวุธสงครามเพียบ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.65 นางแดง (นามสมมุติ) อายุ 64 ปี พาหลาน 2 คน เป็นเด็กสาวอายุ 15 ปี และเด็กชายอายุ 12 ปี เดินทางมาจากอ.หล่มศักดิ์ จ.เพชรบูรณ์ เข้าร้องทุกข์ที่มูลนิธิปวีณาฯ จ.ปทุมธานี แจ้งว่า นางแหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ลูกสาวมีลูกติด 1 คน คือหลานสาววัย 15 ปี ส่วนหลานชายอายุ 12 ปี เป็นลูกของลูกสาวคนโตที่เสียชีวิต ก่อนนางแหม่มจะมาอยู่กินกับ นายฤทธิ์ (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี แรกๆ นายฤทธิ์ก็ดูเป็นคนดี แต่พออยู่ด้วยกันไม่นานก็เผยธาตุแท้ มักจะเสพยา ดมสารระเหย และทำร้ายร่างกายลูกสาวกับหลานสาว และหลานชาย อายุ 10 ปี (ลูกของลูกสาวคนโต) เป็นประจำ
นางแดง กล่าวอีกว่า “ลูกสาวตนพยายามจะเลิกรากับนายฤทธิ์ แต่ก็ถูกนายฤทธิ์ใช้อาวุธปืนข่มขู่กักขังไว้ในห้องไม่ยอมให้ไปไหน ตนไม่รู้จะช่วยลูกได้อย่างไร และก็ไม่กล้าที่จะอยู่ในบ้านเพราะกลัวจะเป็นอันตรายจึงรีบพาหลานหนีมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ”
หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.บ้านติ้ว จ.เพชรบูรณ์ นางสาวณิชาภัทร วิบูลย์พานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ นางสายวรุณ ศรีจินดา หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ช่วยเหลือนางแหม่มทันที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมตัวนายฤทธิ์ และทำการตรวจค้นบ้านพบอาวุธสงคราม ak47 และปืนยาวชนิดอื่นๆ รวม 3 กระบอก อาวุธปืนสั้น 2 กระบอก และสื้อเกราะ 1 ตัว จึงควบคุมตัวนายฤทธิ์พร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนและแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง, มีอาวุธปืนสงครามในครอบครอง, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะฯ, มียุทธภัณฑ์ควบคุมเสื้อเกราะไว้ในความครอบครอง, ข่มขืนใจให้ผู้อื่นตกใจกลัว และ กักขังหน่วงเหนี่ยว ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ขอบคุณ พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.บ้านติ้ว จ.เพชรบูรณ์ นางสาวณิชาภัทร วิบูลย์พานิช พมจ.เพชรบูรณ์ นางสายวรุณ ศรีจินดา หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ เพชรบูรณ์ ที่ทำงานช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และทางพัฒนาสังคมฯ จะได้ช่วยเหลือฟื้นฟูสภาพจิตใจครอบครัวนี้ ซึ่งมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการช่วยเหลือร่วมกับ พม. ต่อไป