ว่าไปตามกฎหมาย!!! “อนุทิน” ตอบปม “ทอม” นำเข้ากัญชาเถื่อน โต้ดราม่าตั้ง KPI บีบใช้กัญชาเป็นข้อมูลเท็จ ชี้การรักษาเป็นเรื่องของดุลพินิจแพทย์

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่มีการอ้างว่า นายจุลภาส หรือทอม เครือโสภณ ผู้ต้องสงสัยกรณีนำเข้ากัญชาเถื่อน เป็นเพื่อนและเป็น “เด็กปั้น” ของพรรคภูมิใจไทยว่า เป็นเพื่อนกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะทำผิดกฎหมายได้ กฎหมายว่าอย่างไร ต้องปฏิบัติตาม มันมีข้อห้ามในการนำเข้าเมล็ดพันธุ์และส่วนประกอบของกัญชาชัดเจน การนำเข้าจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องระบุว่านำมาใช้วิจัยเพื่อรักษาผู้ป่วยการแพทย์ ฉะนั้น ใครที่ทำเกินกรอบถือเป็นความผิดกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับเรื่องเด็กปั้น นั่นเป็นความพยายามที่จะผูกโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน เพื่อนคือเพื่อน หน้าที่คือหน้าที่ ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง ตอนโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ได้แต่กำลังใจจากเพื่อน เรื่องเด็กปั้นของพรรคก็ไม่ใช่ความจริง ท่านไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค เพียงเชิญท่านมาให้ความรู้เรื่องนโยบายกัญชาเป็นวิทยากร

ส่วนกรณีที่ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีว่าการ สธ. ระบุว่ากำหนด KPI ให้โรงพยาบาล  (รพ.) ทุกแห่ง ทำคลินิกกัญชาเพื่อระบายกัญชาออกไปใช้ให้มากที่สุด นายอนุทินกล่าวว่า เรื่องการรักษาเป็นดุลพินิจของแพทย์  ที่ท่านพูดในสภา เป็นข้อมูลเท็จ ที่ไม่ได้ตอบในสภา เพราะตอบเฉพาะเรื่องจริง ข้อเท็จจริงคือ รพ.ทุกแห่งมีคลินิกกัญชาตามที่มีการบรรจุให้ตำรับกัญชาอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้านสมุนไพร ทุกอย่างรับผิดชอบโดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่มีการตั้ง KPI ว่าแพทย์ต้องเอาใจรัฐมนตรีเป็นพิเศษ กลับกัน แพทย์จะกำหนดการรักษาอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องที่แพทย์พิจารณา

สำหรับกรณีที่ สธ.ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้ดำเนินคดีกับผู้ไม่ขออนุญาตศึกษาวิจัย หรือส่งออกสมุนไพรควบคุมหรือจำหน่าย หรือแปรรูปสมุนไพรควบคุมเพื่อการค้า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 นายอนุทินกล่าวว่า นโยบายกัญชาที่ออกมานั้น ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพเป็นหลัก หนังสือที่ส่งไปนั้นมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมการใช้ช่อ ดอก กัญชา ที่จะนำไปแปรรูป การใช้กัญชาไปทำอย่างอื่น เช่นการพันลำจำหน่าย ถือว่ามีความผิดแล้ว เพราะหากจะขายช่อดอก จะต้องขออนุญาต ซึ่งเราไม่มีทางอนุญาตขายเพื่อการสูบเสพสันทนาการ.