“สมศักดิ์” แถลง “ดีเอสไอ” รับ “คดีตู้ห่าว” เป็นคดีพิเศษ เข้าเงื่อนไขฟอกเงิน-ยึดทรัพย์แล้ว 4,401 ล้านบาทเตรียมอายัดเพิ่มอีก 1,123 ล้าน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ร่วมแถลงความคืบหน้าคดีกลุ่มจีนสีเทา
นายสมศักดิ์กล่าวว่า วันนี้เราได้แถลงการทำงานและความคืบหน้า ชุดพาลีปราบยาและการทำงานของ ป.ป.ส. ในคดีกลุ่มจีนสีเทา เครือข่ายของตู้ห่าว ขณะนี้ดีเอสไอ ได้รับเป็นคดีพิเศษแล้ว เลขคดีพิเศษ 314/2565 ฐานความผิดฟอกเงิน ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีการฟอกเงินยาเสพติดมูลค่าสูง กระทบวงกว้าง โดยคณะกรรมการกลั่นกรองได้เสนออธิบดีอนุมัติเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ส่วนผลความคืบหน้าคดียึดอายัดทรัพย์ ก่อนหน้านี้ดีเอสไอยึดอายัดได้ 3,020 ล้านบาท และวันนี้ยึดเพิ่มได้อีก 189 ล้านบาท ป.ป.ส.ยึดอายัดได้ 2,192 ล้าน ซึ่งมีทรัพย์สินบางส่วนที่ซ้ำกับ ดีเอสไอ ทำให้ขณะนี้ยอดรวมอยู่ที่ 4,401 ล้านบาท และทางป.ป.ส. กำลังออกหมายยึดอายัดเพิ่มอีก 1,123 ล้านบาท
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนเพิ่มเติมทราบว่า นายตู้ห่าว มีนอมินี เป็นนายทุนอยู่เบื้องหลัง ดีเอสไอ ได้สืบว่ามีกลุ่มคนอีก 4-5 คน ถือพาสปอร์ตต่างชาติ คาดว่าเป็นนายทุน ซึ่งกำลังสอบสวนเชิงลึกว่าเป็นใครบ้าง หากพร้อมจะได้เปิดเผยต่อไป โดยตอนนี้ได้เลขพาสปอร์ตแล้ว คาดว่าจะเรียกมาให้ปากคำภายใน 2 สัปดาห์นี้ และจะดำเนินคดีได้ภายในไม่เกิน 30 วัน
พ.ต.ท.ยุทธนากล่าวว่า ความผิดคดีอาญาฐานฟอกเงิน เป็นความผิดที่เข้าเงื่อนไขบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ เพราะมีมูลค่าสูง กระทบวงกว้าง ซึ่งบอร์ดกลั่นกรอง เห็นชอบแล้วเสนอให้อธิบดี ออกเลขคดีได้ ในส่วนของคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ไม่ว่าจะเป็นความผิดอาชญากรข้ามชาติ ต้องอยู่ที่คณะกรรมการคดีพิเศษ ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน มี รมว.ยุติธรรม ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทน สตช. อธิบดีดีเอสไอ และอีกหลายหน่วยงานเป็นกรรมการ พิจารณาว่าจะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ก็ยังเป็นเรื่องของตำรวจ ส่วนการยึดทรัพย์คดียาเสพติด ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ส. ดีเอสไอก็ดูเรื่องการฟอกเงิน ต่างหน่วยต่างทำงานในของตนเอง แต่มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน โดยในการสอบสวนสามารถดึงหน่วยงานต่างๆ มาร่วมสอบสวนได้
ด้านนายชูวิทย์กล่าวว่า การเป็นคนดีในสังคมต้องมีความอดทน และแสดงให้คนเห็นว่าไม่ง่าย แต่อย่าหมดกำลังใจ ขอบคุณนายสมศักดิ์และทีมงาน และขอมอบกระเช้าดอกไม้แสดงความขอบคุณที่ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ยืนยันว่าต่อสู้เพื่อผดุงความยุติธรรม ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ไม่ได้เกลียดใครทั้งนั้น อยากทำเป็นตัวอย่างให้คนได้เห็น วันนี้ประชาชนมั่นใจ ในกระบวนการของกระทรวงยุติธรรม ถือเป็นที่พึ่งของสังคม การที่ดีเอสไอเข้ามาทำคดีจะช่วยสืบได้ทั้งหมู่บ้าน ส่วนตำรวจจะสืบบ้านไหนก็ทำไป ซึ่งการที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ไม่ใช่เพราะตนเองมากดดัน แต่เป็นไปตามกฎหมาย.