สตง. ร่วมสนับสนุน กทม. มุ่งสู่ “มหานครปลอดภัย”

กรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนพัฒนากรุงเทพมหานครระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2556 – 2575) เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาให้ก้าวสู่การเป็น “มหานครแห่งเอเชีย” ในปี 2575 ซึ่งประกอบด้วยประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญ 6 ด้าน ได้แก่ มหานครปลอดภัย มหานครสีเขียว มหานครสำหรับทุกคน มหานครกะทัดรัด มหานครแห่งประชาธิปไตย และมหานครแห่งเศรษฐกิจและการเรียนรู้ โดยแผนพัฒนาฯ
ในระยะที่ 1 (พ.ศ. 2556 – 2560) มีเป้าหมายให้กรุงเทพมหานครเป็นมหานครปลอดภัย ประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่
1) ปลอดมลพิษ
2) ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด
3) ปลอดอุบัติเหตุ
4) ปลอดภัยพิบัติ
5) สิ่งก่อสร้างปลอดภัย
6) ปลอดโรคคนเมือง อาหารปลอดภัย

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้ความสำคัญกับการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพของการใช้จ่ายเงินแผ่นดิน ประกอบกับความสำคัญของแผนพัฒนากรุงเทพมหานครระยะ 20 ปี ดังกล่าวข้างต้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงได้เลือกตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยวางแผนการตรวจสอบการดำเนินงานแบบต่อเนื่องหลายปี (Multi-year Performance Audit Plan) จำนวน 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เป็นการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงานมหานครปลอดภัย ด้านปลอดมลพิษ ด้านปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด และด้านปลอดโรคคนเมือง อาหารปลอดภัย ซึ่งได้มีการเผยแพร่ผลการตรวจสอบให้สาธารณชนได้รับทราบแล้ว ส่วนครั้งที่ 3 นี้ เป็นการตรวจสอบตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานครระยะ 20 ปี ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2556-2560) และต่อเนื่องระยะที่ 2 ช่วงปี 2561-2562 ในด้านปลอดอุบัติเหตุ ด้านปลอดภัยพิบัติ และด้านสิ่งก่อสร้างปลอดภัย เพื่อให้ทราบถึงผลการดำเนินงานว่าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล หรือไม่ ตลอดจนเพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน และให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นต่อไป

 จากการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพการดำเนินงานมหานครปลอดภัย ด้านปลอดอุบัติเหตุ ด้านปลอดภัยพิบัติ และด้านสิ่งก่อสร้างปลอดภัย มีประเด็นข้อตรวจพบที่สำคัญ ดังนี้

1.ด้านปลอดอุบัติเหตุ แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี มีเป้าประสงค์ให้กรุงเทพมหานครมีระบบขนส่งมวลชนที่ปลอดอุบัติเหตุ และการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากการตรวจสอบพบว่าการดำเนินงานเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนนไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดให้จำนวนอุบัติเหตุหรือความผิดพลาดที่เกิดจากการปฏิบัติงานระบบขนส่งมวลชนของกรุงเทพมหานครเป็นศูนย์ กล่าวคือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560–2562 มีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานของรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ (BRT) และรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพนักงานขับรถและสภาพรถโดยสาร รวมทั้งสิ้น 156 ครั้ง นอกจากนี้ ยังพบว่า โครงการ/กิจกรรมเพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร ภายใต้ 4 มาตรการที่สำคัญ ได้แก่
1) มาตรการตรวจสอบและปรับปรุงสภาพถนน 2) มาตรการสร้างระบบวิเคราะห์และคาดการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางถนน
3) มาตรการติดตั้งระบบตรวจจับผู้ทำผิดกฎจราจรอิเล็กทรอนิกส์
4) มาตรการจัดกิจกรรมรณรงค์วินัยจราจร ยังมีการดำเนินการไม่ครบถ้วน
    โดยมีสาเหตุมาจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบยังขาดฐานข้อมูลด้านอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดมาตรการในการแก้ไข อีกทั้งยังไม่มีการหารือร่วมกันระหว่างกรุงเทพมหานครกับบริษัทที่เป็นผู้รับมอบกิจการในอำนาจหน้าที่กรุงเทพมหานครถึงประเด็นการเกิดอุบัติเหตุจากการปฏิบัติงานทั้งในระบบและนอกระบบการให้บริการของ BRT เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุง ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงที่ผู้รับบริการระบบขนส่งสาธารณะและผู้ใช้รถใช้ถนนจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

https://audit.go.th/home

2.ด้านปลอดภัยพิบัติ แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร 20 ปี มีเป้าประสงค์ให้กรุงเทพมหานครมีความพร้อมในการรับมือกับน้ำท่วมทั้งจากน้ำฝน น้ำหนุน และน้ำหลาก แต่จากการตรวจสอบรายงานผลน้ำท่วมบนถนนสายหลัก ช่วงเดือนพฤษภาคม – เดือนตุลาคมในปี 2561–2562 โดยเปรียบเทียบเหตุการณ์น้ำท่วมขังของทั้งสองปีพบว่า แม้ปริมาณฝนสะสมในปี 2562 จะลดลงจากปี 2561 คิดเป็นร้อยละ 33.51 แต่กลับพบว่า ปี 2562 ยังคงมีน้ำท่วมขังในจุดเดิมและมีจุดน้ำท่วมขังที่เกิดขึ้นใหม่ คิดเป็นร้อยละ 66.46 ของจุดน้ำท่วมขังทั้งหมด  ซึ่งนอกจากระดับความลึกของน้ำท่วมขังที่ไม่ลดลงแล้ว ยังพบว่ามีจำนวนเหตุการณ์น้ำท่วมขังและระยะเวลาการระบายน้ำที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 อีกด้วย
“การดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังจากน้ำฝนยังมีความเสี่ยงต่อการไม่บรรลุวัตถุประสงค์ เนื่องจากการนำระบบสารสนเทศน้ำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาและป้องกันน้ำท่วมยังเป็นไปอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เกณฑ์ตัวชี้วัดความสามารถการระบายน้ำท่วมขังในถนนสายหลักไม่สามารถสะท้อนสภาพปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้นได้จริง และการดำเนินโครงการยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มความสามารถในการระบายน้ำไม่เป็นไปตามเป้าหมายแผนงานที่กำหนด ทำให้ประชาชนชาวกรุงเทพมหานครได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติน้ำท่วมขัง อีกทั้งยังทำให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา น้ำท่วมขังจากน้ำฝนเป็นไปอย่างไม่คุ้มค่าและไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน” รายงานผลการตรวจสอบ ระบุ

https://audit.go.th/home

3.ด้านสิ่งก่อสร้างปลอดภัย แผนพัฒนากรุงเทพมหานคร ระยะ 20 ปี กำหนดให้กรุงเทพมหานครต้องมีโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ถนน ทางเท้า สะพาน ที่มีความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สตง. ตรวจพบกรณีที่มีความเสี่ยงต่อการไม่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เช่น การดำเนินการตรวจสอบ ปรับปรุงและบูรณะซ่อมแซมถนน ทางเท้า และสะพานข้ามคลองยังขาดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน โดยจากการตรวจสอบศูนย์ก่อสร้างและบูรณะถนน จำนวน 3 แห่ง พบว่า ไม่มีการจัดทำแผนการตรวจสอบ และแผนการปรับปรุงและบูรณะซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานในความรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้การปรับปรุงซ่อมแซมไม่ครอบคลุมพื้นที่ดำเนินการอย่างทั่วถึง และอาจทำให้การดำเนินการไม่สม่ำเสมอและเกิดความซ้ำซ้อนได้ นอกจากนี้ วิธีการตรวจสอบ ปรับปรุง และบูรณะซ่อมแซมถนนและทางไม่เป็นไปตามแนวทางที่เหมาะสม โดยจากการตรวจสอบประกอบกับการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พบว่าเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ จะออกตรวจถนนและทางเท้าในความรับผิดชอบทุกวัน และประเมินความเสียหายของถนนและทางเท้า โดยวิธีการประเมินสภาพด้วยสายตา (Visual Inspection) และจัดทำใบรายงานผลการตรวจสอบเสนอผู้บังคับบัญชาทุก 15 วัน และเมื่อพิจารณาข้อมูลในรายงานผลการตรวจสอบ พบว่าเกณฑ์การประเมินความเสียหายกำหนดขึ้นอย่างกว้าง ๆ ไม่มีรายละเอียดและหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาที่ชัดเจน ส่งผลให้การจัดลำดับความสำคัญเพื่อขอจัดสรรงบประมาณในการซ่อมบำรุงไม่สอดคล้องกับสภาพของความเสียหายของสายทางที่เกิดขึ้นจริง รวมทั้งเกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนรายงานผลการตรวจสอบของ สตง. ยังได้ระบุข้อสังเกตเพิ่มเติมในประเด็นเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูลอาคาร โดยจากการตรวจสอบแผนการปฏิบัติราชการเพื่อจัดทำฐานข้อมูลอาคาร 9 ประเภท และอาคารนอกเหนืออาคาร 9 ประเภท พบว่า การจัดทำฐานข้อมูลอาคาร 9 ประเภท ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายของการจัดทำฐานข้อมูลอาคารทั้งหมด และยังไม่มีการดำเนินการจัดทำข้อมูลอาคารนอกเหนืออาคาร 9 ประเภท ที่เป็นอาคารเก่า อาคารทั่วไปอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยง จึงส่งผลให้กรุงเทพมหานครขาดฐานข้อมูลสำหรับการวางแผนปฏิบัติงานควบคุม ตรวจสอบอาคารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยจากการใช้อาคารและอาจไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยต่อการใช้อาคารที่มีความเสี่ยงได้ทันกาล จากผลการตรวจสอบและข้อสังเกตดังกล่าว สตง. จึงมีข้อเสนอแนะเพื่อให้การดำเนินงานตามแผนพัฒนากรุงเทพมหานครฯ บรรลุเป้าหมาย อาทิ ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณากำหนดแนวทางการรวบรวมข้อมูลสำคัญด้านอุบัติเหตุทางถนน เช่น สถานที่เกิดเหตุ จุดเสี่ยงและจุดอันตราย โดยบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวิเคราะห์และวางแผนกำหนดมาตรการลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร  สำรวจพื้นที่ที่เป็น   จุดเสี่ยงหรือจุดเฝ้าระวังน้ำท่วมและประเมินสภาพปัญหาน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ เพื่อพิจารณาติดตั้งสถานีวัดระดับน้ำท่วม  ปรับปรุงหรือพัฒนาระบบสารสนเทศระบายน้ำให้สามารถประมวลผลและแปรผลข้อมูลได้ โดยไม่ต้องอาศัยดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่เพียงอย่างเดียวเพื่อให้การบริหารจัดการน้ำสามารถทำได้อย่างทันกาล  จัดทำแผนการตรวจสอบและแผนการซ่อมบำรุงที่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดและให้มีการติดตามผลจำนวนโครงการที่ได้รับการซ่อมแซมบำรุงรักษาเพื่อให้เป็นไปตามแผนงาน  ตลอดจนบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำฐานข้อมูลอาคารในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมจัดกิจกรรมให้เจ้าของอาคารได้ตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดจากอุบัติภัยในการใช้อาคาร โดยกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปี เพื่อนำไปสู่   การปรับปรุงแก้ไขอาคารให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานอาคารต่อไป ฯลฯ

https://audit.go.th/home


  ที่มา:สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน  สำนักประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร  โทร. 0 2618 5755