สำเร็จแล้ว การรถไฟฯ เจาะเขามวกเหล็กทำอุโมงค์รถไฟทางคู่ 5.2 กม.
การรถไฟฯ ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟทางคู่สายยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 5.2 กม. บริเวณบ้านหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ประสบความสำเร็จในการขุดเจาะอุโมงค์รถไฟทางคู่สายยาวที่สุดในประเทศไทย บริเวณบ้านหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ โดยมีความยาวภายในอุโมงค์ทั้งสิ้น 5.2 กิโลเมตร หรือคิดเป็นระยะทางในอุโมงค์ทั้งขาขึ้นและขาล่องรวมกว่า 10.4 กิโลเมตร เป็นการก่อสร้างอุโมงค์รถไฟทั้งหมด 3 อุโมงค์ คือ 1.อุโมงค์หินลับ 5.20 กิโลเมตร 2.อุโมงค์มวกเหล็ก 0.26 กิโลเมตร และ3.อุโมงค์คลองขนานจิตร 1.17 กิโลเมตร บนพื้นที่ จ.สระบุรี ถึง จ.นครราชสีมา ซึ่งอุโมงค์มวกเหล็กและอุโมงค์คลองขนานจิตรได้เจาะทะลุหากันเป็นที่เรียบร้อยไปก่อนหน้านี้
“การขุดเจาะอุโมงค์รถไฟถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญ โดยทางกิจการร่วมค้า ไอทีดี-อาร์ที ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟ ได้กดปุ่มระเบิดอุโมงค์หินลับทะลุหากันทั้งหมด(Tunnel Breakthrough) สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มีระยะทางรวม 132 กิโลเมตร ถือเป็นรถไฟทางคู่สายสำคัญ และเป็น 1 ใน 5 เส้นทางรถไฟที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558-2565 โดยเมื่อสร้างเสร็จจะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางและขนส่งในเส้นทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้รถไฟเพื่อการเดินทางและขนส่งสินค้ามากขึ้น รวมถึงยังช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่งของประเทศ
นอกจากนี้ยังช่วยกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค ทั้งด้านเศรษฐกิจ การคมนาคม และส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมและระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่โครงการกับระดับภูมิภาค และต่อเนื่องไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังได้ปรับปรุงจุดตัดทางรถไฟตลอดแนวเส้นทางโครงการเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยให้ประชาชนที่สัญจรผ่านจุดตัดทางรถไฟอีกด้วย