พอแล้ว 8 ปีที่สูญเสียโอกาส!!! “อุ๊งอิ๊ง” ควง “เศรษฐา” นำ “เพื่อไทย” ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่คู่กันครั้งแรก-อาสาทำเพื่อบ้านเมือง

วันที่ 11 มีนาคม 2566 พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย พิจิตร ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’​ ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อ.เมือง จ.พิจิตร ท่ามกลางประชาชนเข้าร่วมฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่น นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

โดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 ของพรรคเพื่อไทย ที่ได้ประกาศต่อที่ประชุมไว้ว่า ชูธง ปักชัย แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน 310 เสียงขึ้นไป ขอให้พี่น้องประชาชนเข้าไปกาในคูหาให้เกิดขึ้นมาจริงๆ  หากเพื่อไทยไม่ได้ 310 เสียง ชาวพิจิตรจะต้องอยู่กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปอีก 4 ปี เอาหรือไม่  ก่อนหน้านี้ไม่กล้าประกาศ ขอเพียงได้ 250 เสียง เพื่อเอาชนะ ส.ว. 250 คนเท่านั้น แต่จากการรณรงค์พบปะพี่น้องประชาชนและการสำรวจของหลายสำนัก เพื่อไทยอาจได้ถึง 270 เสียงขึ้นไป  อยากขอให้พี่น้องช่วยกันขยับเป้าหมายไปที่ 310 เสียง เพื่อปิดกั้นการกลับมาของพลเอกประยุทธ์ให้สิ้นซาก ช่วยกันจัดตั้งรัฐบาลของชาวพิจิตรและชาวไทยทุกคน

ขณะที่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า  พรรคเพื่อไทยทราบดีว่าพี่น้องเจอปัญหามากมาย เพื่อไทยจะแก้ปัญหาให้ชาวเกษตรกร เรามีนโยบายพักหนี้เกษตรกร 3 ปี และเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร 3 เท่า ผ่าน 3 ดี ได้แก่ ดินดี น้ำดี เมล็ดพันธุ์ดี เพื่อให้ราคารสินค้าเกษตรดีถ้วนหน้า ราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นยกแผง และจากปัญหาที่กินทำกิน พรรคเพื่อไทยมี 4 ขั้นตอนที่จะทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นได้ คือ

1.นำเทคโนโลยีมาใช้ในการพิสูจน์สิทธิ์อย่างเป็นธรรม
2.จัดสรรที่ดินสำหรับผู้ที่ไม่มีที่ดินทำมาหากิน
3.แก้กฎหมายที่ขัดต่อความเป็นธรรม เป็นอุปสรรคในการทำมาหากินของประชาชน
4.ที่ดินของรัฐที่ไม่ได้ใช้  จะถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินถ้วนหน้า

นางสาวแพทองธารกล่าวอีกว่า เกษตรกรต้องมีการลดต้นทุนลง ราคาสินค้าเกษตรต้องดียกแผง ข้าวราคาดี ปุ๋ยราคาถูก พรรคเพื่อไทยมีนโยบายนำนวัตกรรมมาเสริม เวลานาล่มก็ไม่ต้องเสียเงิน มีทุนมาให้ทำเกษตรกรรมต่อเนื่อง เราเล็งเห็นปัญหาและพร้อมแล้วที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกช่วงอายุ ช่วงวัย ช่วงอาชีพ จึงขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตของพิจิตรให้แลนด์สไลด์ทั้งจังหวัดพิจิตร

“คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย  บุคคลท่านนี้เรามั่นใจได้เลย ว่า เศรษฐกิจ ของประเทศไทยจะขึ้นอย่างแน่นอน” นางสาวแพทองธารกล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายเศรษฐาขึ้นปราศรัยครั้งแรกที่เวทีพิจิตร คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทย ทุกคน ในวันนี้ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นความภูมิใจ มีความซึ้งใจเป็นอย่างมาก วันนี้มีหัวใจที่รักพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่เอาเผด็จการ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย วันนี้ถึงเวลาแล้วในฐานะนักธุรกิจที่สั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปี ต้องก้าวออกมาจากวงการธุรกิจ และมาทำเพื่อบ้านเมือง 

ทั้งนี้ในระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมายาวนานมาก สูญเสียโอกาส รายได้ลดลง รายจ่ายสูงขึ้น ยาเสพติดระบาดทั่วทุกระแหง ลูกหลานไม่เห็นอนาคตประเทศ  คนที่มีความสามารถในการย้ายถิ่นฐานย้ายประเทศ บุตรหลานไม่อยากมีลูก เพราะไม่อยากเห็นอนาคตที่ไม่สดใจ คนแก่เฒ่าเกษียณอายุ  มีเงินเก็บไม่พอเลี้ยงดูตัวเองอย่างมีความสุข มีศักดิ์ศรีได้ในสังคม ไทยเคยเป็นเสือตัวที่ 5 ของเอเชีย วันนี้เราถดถอยขนาดไหน   มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม จีดีพีเติบโตมากกว่าเรามโหฬาร ประเทศไทยไม่มีเวทียืนในเวทีโลก ผู้นำไม่เคยออกไปเปิดตลาดขายสินค้า เปิดตลาดใหม่ๆ เป็นความคับแค้นใจของพวกเรา

ในอดีต พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ทำนโยบายนำ นำความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชนทุกคน วันนี้พรรคเพื่อไทยภายใต้สโลแกนคิดใหญ่ ทำเป็น เคยทำ และหวังว่าจะได้ทำ มาขอเสียงพี่น้องประชาชนสู่จุดมุ่งหมายแลนด์สไลด์เพื่อไทยทุกคน อยากเห็นประเทศชาติมีอนาคต มีแสงสว่างที่ดี นำพาลูกหลานไปสู่อนาคตที่สดใส  

“8 ปีที่ผ่านมาเพียงพอหรือยัง ผมว่าพอนะครับ อีกไม่กี่เดือน วันที่ 7 หรือ 14 พฤษภาคม เราจะมีวันสำคัญยิ่ง ที่จะเกิดขึ้นคือวันเลือกตั้ง  ถ้าเราไม่พอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ใน 8 ปี เข้าคูหากาเพื่อไทยทั้งสองเบอร์ ทั้งคน ทั้งพรรค ไม่ปันใจให้คนอื่น ไม่สามารถทำได้ เพราะหากมีพรรคอื่นเข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่ิคิดมาและเห็นว่าเหมาะสม และพี่น้องจะไม่ได้ในสิ่งที่เราสัญญาไว้ ผมและเพื่อนร่วมทีม จากพรรคเพื่อไทยไม่อยากจะกลับมาอีก  มาอธิบายว่าทำไมเราทำไม่ได้ อยากจะกลับมาอีกพร้อมกับนโยบายใหม่ๆ ที่จะทำให้รายได้ของพี่น้องสูงขึ้น วันนี้ผมขอ ครั้งแรกที่มาปราศรัยที่นี่ ขอชาวพิจิตร แลนด์สไลด์เพื่อไทยทั้ง 3 เบอร์” นายเศรษฐากล่าว.