“อุ๊งอิ๊ง” ยัน “ทักษิณ” กลับไทย 22 ส.ค. ไม่เกี่ยวโหวตนายกฯ ไร้ดีลผู้มีอำนาจ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรในวันที่ 22 สิงหาคมว่า ในช่วงเช้าได้เดินทางไปทำบุญวันเกิดล่วงหน้า มีเพื่อนสนิทและคนใกล้ชิด ซึ่งก็รู้สึกสบายใจ สำหรับการเดินทางกลับประเทศไทยของอดีตนายกฯ ทักษิณ นั้นถือเป็นของขวัญของทุกคนในบ้าน และเมื่อกลับมาใกล้วันเกิดตนเองก็ถือว่าเป็นของขวัญ 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงความปลอดภัยของอดีตนายกฯ ทักษิณ หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ทุกอย่างทั้งการขึ้นเครื่องบิน สุขภาพ ซึ่งตนอยากให้มีสุขภาพที่แข็งแรง และเมื่อกลับมาถึง คุณพ่อก็ยังไม่ได้เข้าบ้าน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีนักวิชาการวิเคราะห์ว่าการกลับมาของ อดีตนายกฯ ทักษิณครั้งนี้ มองเป็นตัวประกันทางการเมือง นางสาวแพทองธารกล่าวว่า เข้าใจว่าคุณพ่อถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่การกลับมาของคุณพ่อก็เป็นการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิ์กลับมาในประเทศบ้านเกิด ตอนนี้ผ่านไป 17 ปีแล้ว ซึ่งทุกครั้งที่คุยโทรศัพท์กันก็จะพูดเสมอว่าหลาน 7 คนแล้วอยากกลับมาเลี้ยงหลาน แต่ยืนยันว่าไม่ได้คิดถึงเรื่องของการเมืองหรือจะมาเป็นตัวประกัน คิดเพียงว่ากลับมาแล้วปลอดภัยรอวันกลับมาบ้านเพื่ออยู่กับลูกหลาน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวบางส่วนกังวลว่าอาจถูกหลอก นางสาวแพทองธารกล่าวว่า คุณพ่อไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปีแล้วน่าจะมีหลายข้อมูลที่เคยได้รับ ทั้งผิดและถูกซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ 17 ปีผ่านอะไรมาเยอะมาก และการกลับมาครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่มีใครหลอกและท่านก็ไม่ได้หลอกใคร การกลับมาครั้งนี้เป็นการตกลงกับครอบครัว แล้วก็ตัดสินใจกลับมา 

เมื่อถามว่า มีการประเมินถึงขั้นว่าหาก เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเห็นชอบ ก็จะเสนอชื่อ แพทองธาร เพื่อใช้เป็นตัวประกันทางการเมืองนั้น  นางสาวแพทองธารกล่าวว่า อยากให้มองการเมืองสร้างสรรค์ การที่คุณพ่อกลับมา เพราะอยากอยู่กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเมืองก็ขอให้แบ่งเป็นเรื่องการเมืองของพรรคเพื่อไทย การกลับมาของคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือพรรคเพื่อไทย คดีความของคุณพ่อก็ไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ดังนั้น อยากให้แยกเรื่องนี้ออกจากกันให้ชัดเจน

เมื่อถามว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เกี่ยวกันเพราะวันที่อดีตนายกฯ ทักษิณเดินทางกลับคือวันเดียวกับที่โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธารยืนยันว่า ไม่ใช่ความเชื่อมโยงทางการเมืองใดๆ เลย เพราะก่อนหน้านั้น คุณพ่ออยากจะกลับมา วันที่ 31 กรกฎาคม ซึ่งตรงกับวันหยุดจึงเปลี่ยนวัน ก็ยังได้ช่วยดูปฏิทินให้ว่าวันไหนฤกษ์ดี จนมาได้วันที่ 10 สิงหาคม ตามที่ประกาศไปตอนแรก แต่ปรากฏว่าการเดินทางไปตรวจสุขภาพ ไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน และพบว่ามีค่าสุขภาพบางตัวที่ต้อง Follow up จากนั้นจึงต้องหาฤกษ์ดีวันใหม่ ก็มาได้วันที่ 22 สิงหาคม และทางครอบครัวก็รู้กันก่อนที่จะมีการประกาศวันโหวตนายกรัฐมนตรีอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า กำหนดเดินทางกลับต้องดูฤกษ์ด้วยหรือ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ต้องดูนิดนึง ก็ดูไว้ เพราะทุกคนอยากให้เป็นวันที่ดี พร้อมยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนกลับอีกแล้ว 22 สิงหาคมแน่นอน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ดีลกับผู้มีอำนาจจบแล้วใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวยืนยันว่า “ไม่ได้ดีลกับใครเลยค่ะ” พร้อมกล่าวว่า เมื่ออดีตนายกฯ ทักษิณ จะเดินทางกลับมาถึงสนามบินดอนเมืองด้วยเคลื่อนบินส่วนตัว ในเวลา 09.00 น. โดยมีครอบครัว​ไปรอรับ จากนั้นคงเดินทางไปที่ศาลทันที จะไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

เมื่อถามว่า ทางครอบครัวได้มีการดำเนินการขอพระราชทาน​อภัยโทษไว้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ต้องถามคุณพ่อก่อนว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง เพราะทางครอบครัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ เดี๋ยวก็คงจะทราบกัน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ยังค่ะ” 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้งครอบครัวได้ประเมินเรื่องการที่อดีตนายกฯ ทักษิณ จะโดนลงโทษหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า เรื่องคดีขอยังไม่พูดถึง เดี๋ยวจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน แต่ก็ยืนยันว่าจะดูอย่างละเอียด

ผู้สื่อข่าวถามถึงสุขภาพของอดีตนายกฯ ทักษิณ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อตรวจสุขภาพทุกปี แต่บางครั้งอาจจะมีปัญหาบ้าง ดังนั้นก็ต้องคอยติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะตอนนี้อายุ 74 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาก็แข็งแรง ระหว่างอยู่ต่างประเทศก็มีการผ่าตัดบ้าง

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า อดีตนายกฯ ทักษิณเดินทางกลับมาจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและรับโทษ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า พร้อมยอมรับ เพราะเป็นการตัดสินใจของคุณพ่อ ถ้าคุณพ่อยอมรับได้ครอบครัวก็ซัพพอร์ตเต็มที่

สำหรับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ นางแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยก็พยายามเต็มที่ และมีมติเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีความมั่นใจ และอยากตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อให้เพื่อไทยเป็นรัฐบาล นำนโยบายของพรรคไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

เมื่อถามว่า หากนายเศรษฐา ไม่ผ่านในการโหวตเลือกครั้งนี้ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า อยากให้โฟกัสที่นายเศรษฐาก่อน และยังไม่ต้องโฟกัสมาที่ตนเอง เพราะหากโฟกัสหลายจุดก็จะไม่มั่นคง ดังนั้นเราจึงทำเต็มที่ในการเสนอชื่อนายเศรษฐา หวังว่าจะสำเร็จ และตั้งรัฐบาลให้ประชาชนได้

เมื่อถามถึงกระแสดราม่าโจมตีพรรคเพื่อไทยการนำข้อความที่แกนนำพรรคได้ประกาศในช่วงหาเสียงว่าจะไม่จับมือกับพรรค 2 ลุง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า วันนั้นเขาบอกว่าเราไม่มีความชัดเจนในการหาเสียง ซึ่งเราพยายามทำโพลทุกอย่างเพื่อให้แลนด์สไลด์ แต่เราแลนด์สไลด์ไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นรัฐธรรมนูญปี 60 ยังมีเรื่องของ สว.อยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยชนะเป็นอันดับ 1 แต่ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ เราจึงทราบดีโอกาสการจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จเกิดขึ้นได้ บางคนอาจมีการแสดงที่ชัดเจนและไม่ชัดเจน แต่เราก็แสดงความตั้งใจ แต่วันนี้เมื่อไม่เป็นแบบที่เราคิด ไม่เป็นไปตามที่แพลนไว้ เราจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ประเทศไปต่อ

“แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย นั่นคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เราขอน้อมรับ และขอโทษที่ทำให้หลายคนผิดหวังและเสียใจ แต่ถ้าเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลได้แล้วจะทำเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาประชาชนที่มีอยู่มากมาย และจะก้าวข้ามผ่านสนามอารมณ์นี้ให้ได้ โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง” นาวสาวแพทองธารกล่าว

เมื่อถามถึงข้อครหาเกี่ยวกับตัว นายเศรษฐา ได้มีการเตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เราเช็คตามกฎหมายทุกอย่าง หากฟังจากคนที่ออกมาพูด แต่ก็ไม่มีหลักฐาน ขณะที่นายเศรษฐาได้นำหลักฐานออกมาชี้แจงแล้วซึ่งก็มีความชัดเจน ซึ่งบริษัทของนายเศรษฐาก็อยู่ในตลาดหลักทรัพย์และสามารถตรวจสอบได้ เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร จึงอยากให้พิจารณาข้อมูลเป็นตัวสำคัญก่อนตัดสินใจ

เมื่อถามว่า สนใจตำแหน่งใน ครม.หรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้ยังเน้นทำงานพรรค แต่ตามที่ปรากฏในสื่อก็มอบตำแหน่งให้หลายตำแหน่ง ก็ขอบพระคุณมากทั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและตำแหน่งรัฐมนตรี ก็รู้สึกดีใจมาก.