ป.ป.ช.พิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบถนนทางหลวง งบกว่า 49 ล้านสร้างเสร็จไม่นาน พบรอยแตกร้าว

 

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต และชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพิจิตร ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ได้รับแจ้งข้อมูลเบาะแสการทุจริตจากภาคประชาชน กรณีถนนทางหลวงสาย 1067 บริเวณหน้าโรงพยาบาลบางมูลนาก มีรอยแตกร้าว ทั้งที่สร้างเสร็จได้ไม่นาน จากการตรวจสอบเป็นการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงแผ่นดิน รหัสงาน 12100 กิจกรรมก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง งานก่อสร้างประสิทธิภาพทางหลวง ทางหลวงหมายเลข 1067 ตอนควบคุม 0101 ตอน บางมูลนาก – หอไกร ระหว่าง กม.2+506 – กม.3+750

 

ถนนดังกล่าว แขวงทางหลวงพิจิตรได้ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากโครงการนี้เป็นการขยายความกว้างของผิวทางและคันทางเดิมจากเดิม 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร ได้ติดปัญหาบริเวณไหล่ทางไม่สามารถทำเป็นแนว slope ได้ เพราะจะล้ำไปในที่เอกชน จึงต้องทำกำแพงคอนกรีตเป็นแนวป้องกันดินสไลด์ ซึ่งสาเหตุการชำรุดเสียหายเกิดจากปัญหาการยุบตัวของผิวแอสฟัลต์ที่เกิดรอยแตกร้าวในจุดที่เป็นพื้นที่ขยายความกว้างของผิวถนน ประกอบกับฝนที่ตกมาอย่างต่อเนื่องทำให้น้ำซึมลงไปในชั้นพื้นใช้ดินที่มีรอยแตกร้าว จนทำให้ดินยุบตัวลงและดึงรั้งดินในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงร่วมด้วย จึงส่งผลกระทบทำให้บริเวณพื้นที่อื่นเกิดปัญหาตามมาไปจนถึงบริเวณริมฟุตบาทไหล่ทางคอนกรีตที่มีรอยแยกร้าวยาวตลอดแนว

เบื้องต้นทางแขวงทางหลวงพิจิตร ได้แจ้งกับทางผู้รับจ้างให้เร่งแก้ไขความชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะยังอยู่ในช่วงประกันสัญญา โดยแนวทางการซ่อมแซมถนนบริเวณที่เกิดการยุบตัวจะทำการรื้อและบดอัดใหม่ และเทพื้นคอนกรีตปิดหน้างานแทนการใช้แอสฟัลต์เช่นเดิม เพื่อไม่ให้เกิดการแตกร้าวและน้ำซึมเข้าชั้นถนนจนเกิดปัญหาการแยกตัวอีกครั้ง ส่วนรอยแตกแนวยาวอื่นๆ บริเวณฟุตบาทคอนกรีตจะทำการรื้อถอนทำขึ้นใหม่ สำหรับพื้นถนนแอสฟัลต์ที่เกิดรอยแตกร้าวยาวยังไม่ใช่ลักษณะร่องลึกเป็นเพียงการแตกลายผิวถนนเนื่องจากเป็นจุดเชื่อมต่อขยายถนน จะใช้วิธีการซ่อมด้วยการหยอดยางตามมาตรฐานการบำรุงรักษากำหนด

จากสภาพปัญหาดังกล่าว สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร จึงกำชับให้แขวงทางหลวงพิจิตร มีการควบคุมการดำเนินการของผู้รับจ้างที่จะแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรฐานงานทางหลวง และต้องไม่มีผลกระทบตามมาในลักษณะเช่นเดิม

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร จะยังคงติดตามการแก้ไขปัญหาในโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีมาตรฐานตามงานทางหลวงและสามารถใช้งานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการต่อไป.