จับแล้ว!! ผู้ใหญ่บ้านสุโขทัยหื่นล่วงละเมิดทางเพศ 2 เด็กหญิง อายุ 4 ขวบ กับ 6 ขวบ

วันที่ 12 ธ.ค.66 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประสาน พล.ต.ต.ศักดา สังขนิตย์ ผบก.ภ.จว.สุโขทัย หลังแม่ร้องนางปวีณา พี่สาวเข้าไปตามน้องที่บ้านผู้ใหญ่เห็นตำตาขณะกำลังกระทำเด็กหญิง 4 ขวบ ผู้ใหญ่บ้านข่มขู่หากไปแจ้งความจะระเบิดให้หมด ทั้งสองครอบครัวเกรงไม่ปลอดภัยเพราะถูกข่มขู่ปิดบ้านหนีมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ ตำรวจเตรียมคุมตัวฝากขังศาลจังหวัดสุโขทัย พร้อมคัดค้านการประกันตัว

 

สืบเนื่องจากคุณแม่ 2 ราย ชาวจังหวัดสุโขทัย ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีว่า ลูกสาวทั้งสองคือ ด.ญ.เอ อายุ 4 ขวบ และด.ญ.บี อายุ 6 ขวบ (ทั้งสองนามสมมุติ) ถูกผู้ใหญ่ดำ (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาเขยของเด็ก มีอาชีพขับรถตู้รับ-ส่งนักเรียนล่วงละเมิดทางเพศ และพยายามข่มขืนในบ้านพักของผู้ใหญ่บ้าน และคาดว่ามีเด็กอีกหลายคนถูกกระทำเหมือนกัน แต่พ่อแม่ไม่กล้าแจ้งความเพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้ใหญ่บ้าน

 

แม่ ด.ญ.เอกล่าวว่า มาทำงานอยู่จังหวัดปทุมธานี ให้ ด.ญ.เอ อยู่กับยายที่ จ.สุโขมัย ลูกเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 2 ทุกวันจะนั่งรถตู้ของผู้ใหญ่ดำไปกลับ ซึ่งผู้ใหญ่ดำมีศักดิ์เป็นตาเขยของ ด.ญ.เอ เพราะแต่งงานอยู่กินกับป้าของแม่ และเป็นคนรักเด็กครอบครัวจึงไว้ใจ กระทั่งวันที่ 26 พ.ย.66 หลานสาวอายุ 17 ปี มีศักดิ์เป็นพี่สาวของ ด.ญ.เอ เห็นว่าน้องออกไปวิ่งเล่นหายเข้าไปบ้านผู้ใหญ่ดำนาน จึงเดินเข้าไปดู เมื่อเปิดประตูเข้าไปเห็นน้องนอนเปลือยกายท่อนล่างอยู่บนเตียง และผู้ใหญ่ดำกำลังคร่อมร่างน้อง ด้วยความตกใจจึงรีบเดินออกจากบ้านผู้ใหญ่ดำ โดยน้องก็วิ่งตามพี่สาวออกมา

 

จากนั้นหลานสาวก็มาบอกเรื่องดังกล่าวกับยาย ขณะที่ ด.ญ.เอ ก็บอกว่า ผู้ใหญ่ดำชอบกอด หอมแก้ม และจับอวัยวะเพศเวลาที่นั่งรถตู้ไปกลับโรงเรียนหลายครั้ง ก่อนเกิดเหตุผู้ใหญ่ดำชวนด.ญ.เอ ไปเล่นที่บ้าน บังคับให้นอนบนเตียงถอดกางเกงอ้าขา และจับที่อวัยวะเพศ ก่อนที่พี่สาวจะไปเห็นและหนีกลลับบ้าน

 

“ขณะที่ยายนั่งคุยกับหลานสาวที่เห็นเหตุการณ์ จู่ๆ ผู้ใหญ่ดำก็มาที่บ้านและข่มขู่ไม่ให้แจ้งความบอกว่า “ถ้าใครแจ้งความเรื่องถึงศาลจะระเบิดให้หมด” ทุกคนจึงเกิดความกลัว และยายได้โทรมาบอกแม่ ซึ่งแม่ไม่ยอมคิดว่าต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจึงรีบกลับไปหาลูกที่ จ.สุโขทัย ก่อนจะพาไปแจ้งความที่สภ.บ้านด่านลานหอยวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ครอบครัวเกรงว่าจะเป็นอันตรายจึงแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดี และเดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ความปลอดภัยด้วย”

 

ด้านแม่ ด.ญ.บีกล่าวว่า วันที่ 30 พ.ย.66 ขณะที่แม่ทำงานอยู่กรุงเทพฯ ยายโทรมาเล่าเรื่อง “ผู้ใหญ่ดำ” ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นอดีตสามีน้องสาวของยาย ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.เอ ให้ฟังว่า แม่ของน้องเข้าแจ้งความตำรวจแล้ว และแม่ก็แทบช็อก เมื่อยายเล่าอีกว่า ได้สอบถาม ด.ญ.บีก็บอกว่า เคยถูกผู้ใหญ่ดำกระทำเหมือนกัน โดยตาดำชอบจับอวัยวะเพศ กอด หอมแก้มเวลาที่อยู่บนรถตู้

 

และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย.66 ขณะที่ ด.ญ.บี วิ่งเล่นอยู่แถวร้านค้าในหมู่บ้าน ผู้ใหญ่ดำได้ขับรถตู้มาพาตัว ด.ญ.บีไปที่บ้าน และจับเด็กถอดกางเกงบนที่นอน และพยายามจะเอาอวัยวะเพศสอดใส่แต่ไม่สำเร็จ เด็กร้องเสียงดังเพราะว่าเจ็บ ผู้ใหญ่ดำก็ใช้มือปิดปากไม่ให้ร้อง จากนั้นได้ใช้อวัยวะเพศถูไถสำเร็จความใคร่แทน หลัง ด.ญ.บี กลับมาบ้านก็ไม่กล้าบอกใคร จนยายรู้เรื่อง ด.ญ.เอ ด้วยความเป็นห่วงจึงมาถามหลาน เพราะเห็นว่านั่งรถตู้คันเดียวกันและผู้ใหญ่ดำก็ชอบเล่นกับหลานเป็นประจำจึงได้รู้เรื่องทั้งหมด

 

จากนั้นวันที่ 1 ธ.ค.66 ยายได้พา ด.ญ.บีไปแจ้งความที่ สภ.บ้านด่านลานหอย หลังกลับจากแจ้งความ ผู้ใหญ่ดำก็โทรมาถามแม่ว่า “ไปแจ้งความตำรวจเหรอแล้วไปแจ้งมูลนิธิปวีณาเหรอ” ซึ่งแม่ก็แปลกใจว่ารู้ได้อย่างไร ผู้ใหญ่ดำบอกว่า “มีลูกน้องของตำรวจโทรมาบอก” นอกจากนี้ ผู้ใหญ่ดำยังบอกว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเด็กเลย แต่ก็จะช่วยเหลือเงินสัก 1 หมื่นถ้าไปถอนแจ้งความ ซึ่งแม่ก็ไม่พูดอะไรก่อนจะวางสายไป

 

ทั้งนี้ ครอบครัวเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะผู้ใหญ่ดำรู้จักกับตำรวจ ซึ่งแม่กับยายต้องการจะเอาเรื่องผู้ใหญ่ดำให้ถึงที่สุด แต่ก็กลัวว่าครอบครัวจะเป็นอันตรายจึงได้ร้องทุกข์ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีและให้ความปลอดภัยด้วย และเดินทางมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ

 

ล่าสุดวันที่ 12 ธ.ค. นางปวีณา ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.พรเทพ รุ่งเรืองเศรษฐ์ ผกก.สภ.บ้านด่านลานหอย ว่าตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ใหญ่ดำแล้ว อยู่ในระหว่างจับกุมตัวผู้ใหญ่ดำ ทำการสอบสวนและแจ้งข้อหาตามหมายจับ พยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และกระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี และเตรียมคุมตัวฝากขังศาลในวันที่ 12 ธ.ค. 66 พร้อมคัดค้านการประกันตัว.