รวบหนุ่มปล่อยหมากัดตัวนิ่มประกอบเพลง “TikTok”

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับนายบำรุงรัตน์ พลอยดำ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด สายตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่า (สงขลา) นายสัตวแพทย์ สบอ.5 (นครศรีธรรมราช) และตำรวจ กก. 6 บก. ปทส. ลงพื้นที่จังหวัดสงขลาเพื่อติดตามจับกุม กรณีร้องเรียนผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า “ปล่อยหมากัดตัวนิ่มประกอบเพลง” ผ่าน  application  tiktok ตามนโยบาย/ข้อสั่งการของ ดร.ยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 

นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) กล่าวว่ากรมอุทยานฯ ได้สนธิกำลังคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข้อร้องเรียน พบนายศุภชัย (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ37 ปี  ปัจจุบันอาศัยอยู่ หมู่ที่ 11 ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมสุนัข

จากการสอบถาม นายศุภชัยฯ ให้การยอมรับว่า ตนเองได้โพสต์คลิปวิดีโอดังกล่าวจริง โดยตัวนิ่มได้มาจากสวนยางพาราที่กรีดอยู่และได้นำมาถ่ายคลิปที่บ้านจำนวน 2 ตัว 2 ครั้ง (จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้) นิ่มตัวที่เป็นวิดีโอตอนกลางวัน ได้มีคนมาติดต่อขอซื้อ ซึ่งติดต่อกันทาง facebook และได้ขายไปในราคา 3,000 บาท โดยให้ผู้ซื้อโอนเงินมายังร้านค้าในหมู่บ้านซึ่งให้บริการรับโอนเงินทั่วไป ค่าโอน 100 บาท รวม 3,100 บาท นายศุภชัยฯ ไม่ทราบชื่อคนซื้อเนื่องจากปิด Facebook ไปแล้ว ส่วนนิ่มตัวที่ถ่ายคลิปช่วงกลางคืน นายศุภชัยฯ ได้นำไปปล่อยตรงที่เจอในสวนยางพารา

ในการตรวจสอบครั้งนี้ สัตวแพทย์ ประจำ สบอ.5 (นครศรีธรรมราช) ได้เก็บตัวอย่างเลือดและน้ำลายสุนัขเพื่อตรวจหาเชื้อโรคติดต่อ ที่อาจติดมาจากตัวนิ่ม หรือลิ่น

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า นิ่มตัว หรือ ลิ่นชวา ดังกล่าวเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 157 ดังนั้น การกระทำของนายศุภชัยฯ เป็นการกระทำความผิดตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562

1.ฐาน “ล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตฯ” ตาม ม.12 และ ม.89 ว.1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2.ฐาน “ค้าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาต” ตาม ม. 29 ม. 89 ว.1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน10 ปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมหลักฐานจัดทำบันทึกจับกุม นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดาจ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

ที่มา : หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า