จุรินทร์ ระบุ เปิดสมัยประชุม “ทุกฝ่ายต้องทำหน้าที่” ฝ่ายค้านตรวจสอบ-รัฐบาลต้องชี้แจง ส่วน พ.ร.บ.เงินกู้ 7 แสนล้าน มีวัตถุประสงค์ชัดเจน “จัดหาวัคซีนเยียวยา-ฟื้นฟู” ช่วยประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐมนตรี และ ส.ส.ของพรรคในการประชุมสภาสมัยสามัญที่จะมีขึ้นว่า ไม่มีปัญหาอะไร เพราะปกติเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่ต้องทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลอยู่แล้ว รวมทั้งเมื่อมี พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีเข้าสภา ฝ่ายค้านก็จะต้องติดตาม และให้ความเห็นรวมทั้งทำหน้าที่ในการตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องชี้แจง โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ ก็ได้มีการกำชับให้แต่ละกระทรวงได้ลงลึกไปดูในรายละเอียด และทำหน้าที่ชี้แจงในส่วนงบประมาณของแต่ละกระทรวงโดยรัฐมนตรีเป็นผู้ทำหน้าที่หลัก ส่วนท่านนายกฯ ก็จะได้ชี้แจงในภาพรวม
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า ปกติการประชุมสภาพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณก็จะใช้เวลาประมาณ 3 วัน ซึ่งเที่ยวนี้เข้าใจว่าสภาจะเตรียมวันเบื้องต้นไว้คือวันที่ 31 พ.ค. และ 1-2 มิ.ย. ที่จะถึงนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวกล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินกู้ 7 แสนล้านบาทเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นภาพรวม เพราะงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 จะเป็นเงินลงทุนประมาณ 7 แสนล้าน ส่วนเงินกู้อีก 7 แสนล้าน จะเข้ามาช่วยเพิ่มเติมในวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 3 ข้อ คือ 1.นำมาใช้จ่ายเรื่องการแก้ปัญหาโควิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เครื่องมือแพทย์ และอื่นๆ ที่จำเป็น เข้าใจว่ามีวงเงินประมาณ 3 หมื่นล้าน 2.นำมาใช้เพื่อชดเชยและเยียวยา ประมาณ 4 แสนล้าน ส่วนอีก 2.7 แสนล้าน จะนำมาใช้ในเรื่องการฟื้นฟู เพราะฉะนั้นก็มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และรัฐบาลก็ต้องเข้าไปกำกับดูแลให้เป็นไปตามนี้ ซึ่งก็จะมีส่วนช่วยทั้งในการแก้ปัญหาโควิด และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไปในเวลาเดียวกัน กับการใช้งบประมาณประจำปีไปเสริมกัน
นายจุรินทร์ยังกล่าวว่า ความกังวลในเรื่องการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่รัฐสภานั้น ประธานสภาฯ ได้สั่งการและเตรียมการเป็นลำดับอยู่แล้ว ถ้าทุกคนปฏิบัติตามกติกา ก็คิดว่ามีความปลอดภัยในระดับที่น่ามั่นใจได้ รวมทั้ง ส.ส.ของพรรคทุกคนต้องฉีดวัคซีน หรือมีใบรับรองผลการตรวจโควิด ไม่อย่างนั้นก็จะเข้าประชุมไม่ได้ เพราะประธานสภาได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบแล้ว และในส่วนของผู้ติดตาม ส.ส.และผู้ช่วยรัฐมนตรีที่จะต้องฉีดวัคซีนนั้น ต้องลงทะเบียนหมอพร้อมตามคิว เพราะพรรคไม่มีนโยบายลัดคิวและใช้สิทธิพิเศษ.