สตง.ยืนยันพร้อมให้การสนับสนุนการจัดหาและฉีดวัคซีนที่รวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีความประสงค์ที่จะจัดซื้อวัคซีนทางเลือก (โควิด-19) จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และมีการให้ข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยระบุว่า กรณีดังกล่าวอาจเป็นปัญหาที่ สตง. จะตรวจสอบว่าเป็นการใช้เงินผิดประเภท นั้น ขอเรียนชี้แจงว่า สตง. ยังคงยืนยันเจตนารมณ์เดิมนับตั้งแต่เริ่มมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เมื่อต้นปี 2563 ซึ่ง สตง. ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ว่า สตง. ตระหนักถึงความปลอดภัยของประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นสำคัญ สตง. จึงพร้อมให้การสนับสนุนการดำเนินการใด ๆ ที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ดังกล่าวด้วยความสุจริตและโปร่งใส ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าวเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งมีความจำเป็นต้องจัดหาและฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ดังนั้น ไม่ว่า อปท. ภาคเอกชน หรือหน่วยงานใดที่ประสงค์จะเข้ามาช่วยรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีน การกระจายวัคซีน ตลอดจนการฉีดวัคซีนและการดูแลประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนถือเป็นเรื่องที่ดีและควรต้องเร่งดำเนินการ ส่วนประเด็นการเบิกจ่ายเงินให้ถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นเรื่องที่ สตง. พร้อมให้คำแนะนำ ตอบข้อสงสัย หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานที่มีความตั้งใจและพร้อมที่จะดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง
“สิ่งที่รัฐบาล หรือ ศบค. ต้องเร่งพิจารณาตัดสินใจให้ชัดเจน คือ จะมีนโยบายและข้อสรุปในเรื่องนี้อย่างไร และชี้แจงหรือสื่อสารให้ประชาชนได้รับทราบเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการดำเนินการของภาครัฐ ทั้งในภาพรวมของประเทศและในระดับพื้นที่” นายประจักษ์กล่าวในตอนท้าย.