เวทีเอเปค ! จุรินทร์ ชู ประเทศไทย เร่งรัดการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเต็มที่ เพื่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ-ผู้บริโภค พร้อมร่วมมือประเทศในภูมิภาค

วันที่ 4 มิถุนายน 2564 เวลา 18.00 น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วม การประชุมระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทาง ธุรกิจของเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC) ผ่านระบบ Video Conference ณ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ โสมสวลี ชั้น 11 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

นายจุรินทร์ กล่าวในการประชุมระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปคกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจของเอเปคในวันนี้ สถานการณ์วิกฤตโควิด-19 มีผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจในทุกๆ ระดับโดยเฉพาะธุรกิจระดับชุมชน รวมทั้งวิสาหกิจ ขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย นอกจากนี้ ข้อจำกัดเรื่องการเดินทางของนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว รวมทั้งมาตรการกักตัวที่ยาวนาน ส่งผลกระทบทางลบต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไทยได้ริเริ่มการใช้โมเดลการค้ารูปแบบใหม่ โดยส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจผ่านระบบออนไลน์ ผ่านความร่วมมือระดับจังหวัดและระดับประเทศ ซึ่งสร้างโอกาสใหม่สำหรับธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกระจายสินค้าไปยังผู้บริโภคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศในช่วงโควิด-19

การกลับมาเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเปคอีกครั้งหลังวิกฤตโควิด-19 เป็นเรื่องสำคัญลำดับแรกสำหรับไทย ไทยสนับสนุนให้เขตเศรษฐกิจเอเปคกำหนดมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางในภูมิภาคเอเปค สำหรับประเทศไทย เรามีแผนที่จะเปิดพรมแดนอีกครั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยเริ่มภายใต้แผนงาน ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ 1 กรกฎาคมปีนี้

เราต้องทำให้มั่นใจว่า ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด-19 และสินค้าจำเป็นอื่นๆ การขจัดข้อจำกัดในการส่งออกและสนับสนุนภาคการขนส่งและภาคโลจิสติกส์จะช่วยให้สามารถขนส่งวัคซีน/เวชภัณฑ์ได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วในช่วงวิกฤต ไทยยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับการนำเข้ารายการยา และเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการรักษาโรคโควิด-19

นอกจากนี้ เราสนับสนุน การวิจัย และการพัฒนา และการผลิตวัคซีนเพื่อให้มีคุณภาพสูงสุด และมีการกระจายที่เพียงพอทั่วประเทศ ไทยอยู่ระหว่างเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจและผู้บริโภค รวมทั้งเพื่อกลับมาเชื่อมโยงในภูมิภาคอีกครั้ง

ในการฟื้นฟูความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคหลังโควิด-19 ไทยส่งเสริมการค้าและความยั่งยืน ไทยสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย ให้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ในบริบทของเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19.