มหาดไทย แจ้งยกเลิกคำสั่งหนุนฉีดวัคซีนโควิดพนักงานไทยเบฟฯ แล้ว
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ว่า เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ชัดเจน ครบถ้วน ตามเจตนารมณ์ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท ) จึงแจ้งทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติ ดังนี้
1.ยกเลิกโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0230/ว 3464 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2564 และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ถือปฏิบัติตามโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0230 /ว 3497 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2564 และแนวทางที่ คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ กำหนด รวมทั้งข้อสั่งการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)
2.ชี้แจง ทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้กับองค์กรภาครัฐ เอกชน และประชาชน ให้เกิดความร่วมมือในการจัดทำแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมการกรณีเกิดการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) รวมทั้ง การบริหารจัดการพื้นที่ตามแนวทางที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนด และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548
สำหรับ คำสั่ง มท 0230/ว 3464 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ที่ยกเลิกนั้น เป็นกรณีหนังสือที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด จัดหาวัคซีนให้บริษัท พนักงานและครอบครัวบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
โดยขอให้ถือปฏิบัติ ตามคำสั่ง มท 0230 /ว 3497 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2564 นั่นคือทุกจังหวัดต้องเตรียมพร้อมวางระบบการฉีดวัคซีนให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั่วถึง สะดวก เป็นไปตามลำดับความสำคัญ และแนวทางที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติและ ศบค.กำหนด ภายใต้มาตรฐานเดียวกันอย่างเท่าเทียม
ทั้งนี้ ให้สร้างการรับรู้กับภาครัฐและเอกชน โรงงาน สถานประกอบการ องค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรอยู่ในหลายจังหวัด หรือองค์กรระหว่างประเทศ/หน่วยงานต่างชาติ ที่ติดต่อผ่านกระทรวงการต่างประเทศ สามารถแจ้งหนังสือมายังอธิบดีกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับวัคซีนไปฉีดให้บุคลากรในสังกัด โดยหาสถานพยาบาลรองรับการฉีดเองได้
ที่สำคัญ ทุกจังหวัดต้องทำข้อมูลและแผนเผชิญเหตุสถานที่ที่มีบุคลากรจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 เป็นกลุ่มก้อน หรือคลัสเตอร์.