“หอการค้าไทย” ชี้การประกาศเปิดประเทศส่งสัญญาณที่ดี ย้ำทุกฝ่ายต้องมีวินัย เพื่อลดความเสี่ยง
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลง ประกอบกับแผนการจัดหาและจัดสรรวัคซีนที่มีความชัดเจน ทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้น การกระจายวัคซีนไปต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง การติดเชื้อจากต่างประเทศก็ไม่มีปริมาณมาก ดังนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่นายกรัฐมนตรีออกมาประกาศสร้างความชัดเจนในการเปิดประเทศ เพราะจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการและนักเดินทางได้รู้ล่วงหน้าและมีการเตรียมตัวที่ดีขึ้น ภายใต้การควบคุมและมีลำดับขั้นตอนในการทยอยเปิดที่ชัดเจน
ทั้งนี้ มาตรการที่ภาครัฐได้ทยอยผ่อนคลายตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมไปถึงโครงการ Phuket Sandbox ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนั้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมตัวมาแล้ว เช่น มาตรการ SHA+ และ COVID FREE SETTING อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมความพร้อม คือ การกระจายฉีดวัคซีนเพิ่มเติม ทั้งเข็ม 2 และเข็ม 3 โดยภาคเอกชนที่ร่วมเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อร่วมเปิดประเทศไปด้วยกัน
“สิ่งสำคัญในขณะนี้ คือการสร้างความเชื่อมั่น โดยการสื่อสารไปยังประเทศต่างๆ ถึงกระบวนการในการเดินทางเข้าประเทศไทยที่เป็นมาตรฐานสากล นอกจากนั้น มาตรการ COVID FREE SETTING ของภาครัฐ ได้มีการปรับให้เหมาะสมกับสถานประกอบการต่างๆ ให้สามารถปฏิบัติตามได้ ทั้งเรื่องการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และต้องตรวจ ATK ตามกำหนดระยะ ที่สำคัญคือ ผู้ประกอบการและประชาชนจะต้องมีวินัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และจะทำให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืน” นายสนั่นกล่าว
นอกจากนั้น หอการค้าไทยยังได้เสนอแนวทางเรื่อง Digital Health Pass เสริมการทำงานของภาครัฐ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรองรับปริมาณนักเดินทางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับนักเดินทาง ยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยว ด้วยการนำระบบ Digital เข้ามาใช้ สร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวกลับไปบอกต่อ และดึงดูดคนให้เข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นกลับมาไม่ใช่เฉพาะภาคท่องเที่ยว แต่จะกระจายไปยังหลายๆ ภาคส่วนต่อไป ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องมีมาตรฐาน มีระบบ และมีการควบคุมสถานการณ์ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่แยกคุมโซนตามสถานการณ์ความเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัย และมีความเข้มงวด เพื่อให้ไม่เกิดการระบาดขึ้นมาอีกรอบ
“หอการค้าไทยคาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มเติมประมาณเดือนละ 1 แสนราย ซึ่งจะส่งผลให้ GDP ในปีนี้เติบโตเพิ่มมากขึ้น แต่ยังคงอยู่ในกรอบ 0-1% ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศส่วนอื่นๆ ที่หอการค้าฯ ได้เคยเสนอไป จะส่งผลกับการเพิ่มขึ้นของ GDP ได้มากกว่า ทั้งการผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ การเติมเพิ่มเงินคนละครึ่งจาก 3,000 บาทเป็น 6,000 บาท และมาตรการช้อปดีมีคืน” นายสนั่นกล่าวทิ้งท้าย.