“ดีเอสไอ” ขยายผลอายัดทรัพย์สินอดีตคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ในพื้นที่ 5 จังหวัด
ตามที่ สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ได้มีหนังสือขอความเป็นธรรมผ่านศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการสอบสวนกรณีผู้เสียหายจากกรณีอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวก ทุจริตโดยการนำเงินออกจากสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ด้วยวิธีปล่อยเงินกู้พิเศษให้แก่ตนเองกับพวก เป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ได้รับความเสียหาย ต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้ดำเนินการรับเรื่องการทุจริตของอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด เพื่อดำเนินการกับบุคคลที่กระทำความผิดในสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เป็นคดีพิเศษที่ 21/2564 โดยได้เร่งดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด เพื่อนำเงินชดใช้คืนสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟและสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหายนั้น
ล่าสุด วันที่ 25 ตุลาคม 2564 นายแพทย์ไตรฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรองอธิบดีที่กำกับดูแล พันตำรวจโทจักรกฤษณ์ วิเศษเขตการณ์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการพิเศษ นายระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา และนายพงษ์ธวัช อ่วมสำอางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการฟอกเงินทางอาญา 3 พร้อมคณะ ร่วมกับ นายประกอบ เผ่าพงศ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และหน่วยงานราชการในพื้นที่ร่วมกันบูรณาการลงพื้นที่ติดประกาศอายัดทรัพย์สินของอดีตคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด กับพวก ในระหว่างวันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2564 ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ชลบุรี และอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
พันตำรวจตรียุทธนากล่าวว่า ในการลงพื้นที่เพื่ออายัดทรัพย์สินของอดีตคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟในวันนี้ สืบเนื่องจากที่ได้มอบหมายให้ นายธวัชชัย รัตนปรีชาชัย รองผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินทางอาญา ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และนายพงษ์ธวัช อ่วมสำอางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีการฟอกเงินทางอาญา 3 ให้ดำเนินการสอบสวนขยายผลการโอน เปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด โดยการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการดำเนินการในระยะที่ 2 หลังจากพบหลักฐานการโอนชำระเงินเพื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน
และยังพบอีกว่าทรัพย์สินบางรายการอดีตผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ไปซื้อทรัพย์สินโดยยังไม่มีการโอนกรรมสิทธิ์ เนื่องจากเป็นที่ดินที่ออกโฉนดโดยวิธีการเดินสำรวจออกโฉนดที่ไม่มีหลักฐานเดิม ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 58 ทวิ จึงติดเงื่อนไขห้ามโอนมีกำหนด 10 ปี โดยเป็นการร่วมบูรณาการกับสำนักงานที่ดินในพื้นที่ ตำรวจ และปกครองอำเภอ ในพื้นที่ 5 จังหวัด รวมจำนวน 110 รายการ มูลค่าประมาณ 214 ล้านบาท
กรมสอบสวนคดีพิเศษจะดำเนินการกับทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ด้วยการบูรณาการทางกฎหมาย เพื่อมิให้เกิดผลกระทบกับทรัพย์สิน และมิให้ทรัพย์สินเสียหายหรือเสื่อมราคาลง เพื่อมิให้เกิดความเสียหายกับทุกฝ่ายในการอายัดทรัพย์สิน โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมุ่งเน้นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มุ่งเน้นให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเยียวยาและชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย ตลอดจนสมาชิกสหกรณ์จำนวนกว่า 6,000 ราย และสหกรณ์พันธมิตรอีก 15 แห่ง
โดยจะดำเนินการเชิงบูรณาการร่วมกับ สำนักงาน ปปง.ควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย และสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ส่งผลสัมฤทธิ์ในทางปฏิบัติ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 อย่างเด็ดขาดต่อไป.