พรรคกล้า เปิดตัว “ผู้กำกับหนุ่ย-ทนายอาร์ม” สู้ศึกเลือกตั้งซ่อม เพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของชาวใต้ มั่นใจสู้ฐานเสียงเก่าได้
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และคณะผู้บริหารพรรค แถลงเปิดตัว พันตำรวจเอกทศพล โชติคุตร์ (ผู้กำกับหนุ่ย) ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร และนายพงศธร สุวรรณรักษา (ทนายอาร์ม) ทนายความด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชน ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 จ.สงขลา ซึ่งว่าที่ผู้สมัครทั้ง 2 คน ได้ผ่านกระบวนการคัดเลือกตามกฎหมายแล้ว
นายกรณ์กล่าวว่า ตั้งใจให้พรรคเป็นเวทีรวมพลคนมีของ กว่าครึ่งปีที่เตรียมการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เราคัดคนคุณภาพในท้องถิ่นเข้าสู่การเมือง เราตระหนักว่าสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุดคือ ผู้จริงใจ มีความรู้ความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และสร้างโอกาสในการทำมาหากิน ดังนั้นพรรคการเมืองที่เป็นที่พึ่งได้ ต้องมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ และพรรคกล้าพร้อมเป็นคำตอบให้ประชาชน ซึ่งภาคภูมิใจนำเสนอผู้สมัครที่ดีมีคุณภาพ ทั้ง 2 คนเป็นนักการเมืองเลือดใหม่ เป็นคนท้องถิ่นมีคุณภาพ ไม่เคยลงสมัครที่ไหนมาก่อน แต่มาลงพรรคกล้า เพื่อความเปลี่ยนแปลงการเมืองใน 2 จังหวัดนี้ และที่ผ่านมาพวกเขาก็ทำงานเป็นที่พึ่งให้ประชาชน เป็นตำรวจมือสะอาด และเป็นทนายความช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ดังนั้นการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปได้ก็ต้องมีการเริ่มต้น ซึ่งการเมืองที่ผ่านมาไม่ตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่ จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงการเมือง และมั่นใจว่าทั้ง 2 คน เป็นผู้สมัครคุณภาพ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของชาวชุมพรและสงขลา ถ้าเรามีผู้แทนในสภาจะได้ลงมือทำให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ พร้อมขอโอกาสให้กับผู้สมัครหน้าใหม่ของพรรค เพื่อให้การเมืองพ้นจากการผูกขาดของรัฐ และอิทธิพลเดิม
สำหรับเขต 1 จ.ชุมพร และเขต 6 จ.สงขลา เป็นฐานเสียงมายาวนานของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าที่ผู้สมัครจะแข่งกับเขาอย่างไร พันตำรวจเอกทศพลกล่าวว่า ลงพื้นที่มากว่า 1 ปี พบว่าในพื้นที่ยังขาดโอกาสทางการเกษตร การท่องเที่ยว สาธารณูปโภค คุณภาพชีวิต จึงต้องการให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีเจ้าของพื้นที่แต่ตนไม่ได้กลัว หากประชาชนอยากเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นก็ขอให้โอกาส
ขณะที่นายพงศธร หรือทนายอาร์มกล่าวว่า เมื่อเราลงสมัครไม่มีสนามไหนง่าย คู่แข่งก็เป็นภรรยาของอดีตนายก อบจ.สงขลา แต่เราจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลง การทำการเมืองแบบใหม่ เพราะประชาชนยังขาดโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม วันนี้สงขลาต้องกล้าเปลี่ยน
นายกรณ์กล่าวอีกว่า วันพุธที่ 15 ธันวาคม จะลงพื้นปราศรัย จ.สงขลา ส่วน จ.ชุมพร ในวันที่ 18 ธันวาคม เพื่อสะท้อนถึงความพร้อมและให้ความสำคัญในการเลือกตั้งซ่อม แม้ว่าการเลือกตั้งซ่อมจะไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าชาวชุมพรและสงขลา ต้องการเห็นชีวิตที่ดีขึ้น ต้องการโอกาสที่ดีขึ้น และเห็นการเปลี่ยนแปลง เราจึงส่งผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่มีเส้นสายการเมือง แต่ใช้การทำงานเป็นจุดขาย
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงการส่งสมัครผู้ว่าฯ กทม. โดยนายกรณ์กล่าวว่า มีการเตรียมคนไว้แล้ว แต่เห็นว่าวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อไร ดังนั้นพรรคจึงรอความชัดเจนตรงนี้ และเมื่อชัดเจนแล้วก็สามารถที่จะเปิดตัวได้ว่าท่าทีหรือยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ขณะนี้พรรคมองว่าไม่ใช่เรื่องเร่งรีบหรือมีความจำเป็นที่จะต้องออกตัว แต่จะใช้เวลาที่มีอยู่ให้กับเรื่องการเลือกตั้งซ่อม ขณะเดียวกันพรรคพร้อมที่จะส่งผู้สมัคร ส.ก.ในพื้นที่ กทม. เพื่อมีส่วนร่วมในการทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น
นายกรณ์กล่าวอีกว่า มั่นใจในแนวทางและคนของเรา เราเป็นพรรคใหม่ พื้นที่ไหนที่เราไม่มั่นใจเราก็ไม่จำเป็นต้องส่ง ดังนั้นเลือกตั้ง ส.ส. 400 เขต ก็ไม่น่าจะส่งครบทุกเขต เพราะต้องยอมรับว่าเราเป็นพรรคใหม่ โดยจะประเมินตามความเป็นจริง และในวันที่ รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้ง จะมีความชัดเจนมากกว่านี้ เรื่องอื่นรอได้.