“เพื่อไทย” ลงพื้นที่ “ถนนข้าวสาร” ฟังปัญหาผู้ค้า-โอดโดนจัดระเบียบจนทำมาหากินไม่ได้ “ชลน่าน” พร้อมใช้สภาแก้ปัญหาประชาชน

พรรคเพื่อไทย นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค และ ส.ส. เชียงใหม่ และ ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส. กทม. และโฆษกพรรค พร้อมทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร รับฟังปัญหาผู้ประกอบการถนนข้าวสาร โดยตัวแทนผู้ประกอบการได้สะท้อน 2 ปัญหาใหญ่ที่อยากได้รับการดูแลแก้ไขโดยด่วนคือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อฟื้นคืนธุรกิจ และการจัดโซนนิ่งเวลาเปิด-ปิด ย่านธุรกิจถนนข้าวสารเป็นพิเศษ

นายปิยะบุตร จิวระโมไนย์กุล นายกสมาคมผู้ประกอบการถนนข้าวสาร นางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถนนข้าวสาร และประธานชมรมหาบเร่แผงลอยกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งตัวแทนผู้ประกอบการถนนข้าวสาร ร่วมกันสะท้อนปัญหา โดยระบุว่า ทุกวันนี้ผู้ประกอบการกลางคืนถนนข้าวสาร พบปัญหาเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการพิสูจน์ในการทำการค้า พบเงื่อนไขด้านระเบียบที่ทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพ จนท้อแท้ ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีสิทธิเข้าถึงสินเชื่อของภาครัฐได้หรือไม่ ธุรกิจถูกสั่งปิดมา 2 ปี ผู้ประกอบการลำบากสาหัส ไม่มีรายรับ มีแต่รายจ่าย เสียค่าเช่าเดือนละแสน ไม่ได้ลดเลยสักบาทเดียว ที่ผ่านมาสะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาลมาโดยตลอด ไม่อยากทะเลาะกับรัฐบาล แต่คนทำมาค้าขายกำลังจะตายเพราะความไม่แน่นอนในนโยบายของรัฐที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบรายวัน แม้ผู้ประกอบการรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือตัวเองหนีตาย ปรับพื้นที่เปิดโล่ง สร้างมาตรการคัดกรองความปลอดภัยด้านสาธารณสุขกันเองอย่างเข้มแข็ง หากรัฐบาลไม่พร้อมช่วยเหลือ ก็อย่าสร้างอุปสรรคเพิ่มเติมให้ผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประกอบการอยากฝากพรรคเพื่อไทยเป็นประบอกเสียงให้ประชาชน บอกให้รัฐบาลรับฟังปัญหา พร้อมเสนอการจัดถนนข้าวสารเป็นโซนนิ่งเวลาพิเศษเพื่อเปิดการท่องเที่ยว ผ่อนปรนการปิดให้เกิน 21.00 น.หรือ 23.00 น. เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถทำมาหากินกันได้อย่างปกติ

นายแพทย์ชลน่านกล่าวว่า หลังจากได้รับฟังปัญหาแล้ว พรรคเพื่อไทยจะนำเรื่องเข้าสู่สภา เพื่อสะท้อนปัญหาและหาทางแก้ไขโดยด่วน นอกจากนี้ ขอเชิญตัวแทนผู้ประกอบการเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมในที่ประชุมกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ชัดและตรงจุดมากยิ่งขึ้น ในส่วนของนโยบาย พรรคเพื่อไทยจะนำปัญหาที่ได้รับการสะท้อนวันนี้ออกมาเป็นนโยบายแก้ปัญหาเป็นรูปธรรม

นายจุลพันธ์กล่าวว่า วันนี้เสียใจที่ต้องเห็นถนนข้าวสาร ถนนสายหลักด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยเงียบเหงาลง เป็นห่วงว่าระยะยาวหากไม่สามารถฟื้นคืนให้ข้าวสารกลับมาเป็นปกติโดยเร็ว พฤติกรรมคนเปลี่ยนไปที่อื่นแล้ว ถนนข้าวสารจะกลับฟื้นคืนปกติได้ยาก ส่วนปัญหาที่ได้รับฟังจากผู้ประกอบการวันนี้ ตรงกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยคาดการณ์คือ ความล้มเหลวในการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ได้สร้างภาระใหญ่ให้ผู้ประกอบการ แม้จะกู้เงินมาเพื่อเยียวยาช่วยเหลือประชาชน แต่เงินกู้นั้นไม่ถึงผู้ประกอบการรายย่อย แต่ทุนใหญ่กลับได้รับการเอื้อประโยชน์มากกว่า เรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อต่อลมหายใจผู้ประกอบการ

นางสาวธีรรัตน์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอวิธีแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เช่น กองทุนคงการจ้างงาน แต่รัฐบาลไม่เรียนรู้ความผิดพลาด ไม่ใส่ใจแก้ไข การระบาดโควิด-19 รอบก่อนหน้า ประเทศไทยผ่านมาได้ เพราะประชาชนช่วยเหลือกันเอง ในเรื่องธุรกิจกลางคืน เห็นว่ารัฐบาลควรสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยมากกว่าการปล่อยให้ผู้ประกอบการสู้เพียงลำพัง ขณะนี้ผู้ประกอบการเจ็บปวดอยู่กับคราบน้ำตา อยากให้รัฐบาลรับฟังเสียงประชาชนมากกว่านี้

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ทั้งกรรมการบริหาร ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการ และผู้ค้าหาบเร่ แผงลอย ถนนข้าวสารพร้อมรับประทานหมูปลาร้า ที่บริเวณแยกคอกวัวร่วมกันด้วย.