“โฆษกรัฐ” เผย “นายก” เร่งมาตรการลดภาระ ปชช.-คลังประชุมด่วนเดินหน้า “คนละครึ่งเฟส4” เร็วขึ้น
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มทุกสาขาอาชีพ สั่งเร่งบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังส่งกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย มอบหมายกระทรวงการคลังเร่งรัดโครงการให้เร็วขึ้น จากเดิมที่ได้กำหนดระยะเวลาการออกมาตรการไว้ประมาณช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน 2565
พร้อมกับปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกระแสข่าวว่า จะให้ประชาชนกลุ่มเก่าที่เคยได้รับสิทธิกดยืนยันสิทธิ และให้ประชาชนกลุ่มใหม่จำนวน 5 ล้านคนลงทะเบียนเข้าร่วม โดยจะมีการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ในวันที่ 16 มกราคม 2565 นี้
ทั้งนี้ ความคืบหน้าโครงการคนละครึ่งเฟส 4 หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 เห็นชอบ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อประชาชน ล่าสุดกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้แก่คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดการดำเนินโครงการ เช่น จำนวนสิทธิที่จะเข้าร่วมโครงการ วันแรกที่จะเปิดรับลงทะเบียน ซึ่งเบื้องต้นจะสามารถเปิดลงทะเบียนวันที่ 14 ก.พ.65 และเริ่มใช้จ่ายได้ในวันที่ 21 ก.พ.65
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเงื่อนไขและรายละเอียดจะได้รับตัววงเงินสิทธิ์เท่าใดนั้น ต้องให้คณะกรรมการกลั่นกรองเคาะอนุมัติวงเงินก่อน จากนั้นก็จะจัดทำแนวทางแล้วนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง จึงสามารถเปิดลงทะเบียนคนละครึ่ง เฟส 4 ให้กับพี่น้องประชาชนได้ต่อไป ทั้งนี้ วงเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 จะนำมาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฉุกเฉิน 5 แสนล้านบาท ที่ถูกจัดไว้เพื่อใช้ในการดูแลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และก่อนหน้านี้ โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 ยังมียอดใช้จ่ายไม่เต็มจำนวน โดยเหลือวงเงินที่ส่งคืนรัฐอีกประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
“ทั้งนี้ โครงการคนละครึ่งเฟส 4 นี้ ครอบคลุมกลุ่มคนที่มีแอปเป๋าตังค์และผู้ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการใหม่ รวมทั้งโครงการอื่นที่ดูแลกลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษควบคู่ไปพร้อมกัน โดยจะมีส่วนในการลดภาระของประชาชน ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ” นายธนกรกล่าว.