“ปวีณา” พา “พนักงานเก็บขยะ” ถูกสาวขับกระบะชนแล้วหนีเข้าติดตามคดี
วันที่ 24 ก.พ.65 นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานายหนึ่ง (นามสมมุติ) หนุ่มพนักงานเก็บขยะประจำรถเก็บขยะของ กทม. ที่ถูกสาวเมาขับชนแล้วหลบหนีหมายจับ โดยขับรถกระบะพุ่งชนขณะปฏิบัติหน้าที่ย่านนิมิตรใหม่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกตัดขาเป็นคนพิการ ไปพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 ที่ สน.มีนบุรี เพื่อติดตามคดีและประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือ เนื่องจากผู้เสียหายยังเป็นหนี้ในการรักษากับทางโรงพยาบาลกว่า 300,000 บาท และพูดคุยกับผู้ต้องหาเรื่องความรับผิดชอบ ซึ่งหลังก่อเหตุหลบหนีการจับกุมร่วม 7 เดือน โดยผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา เมื่อวันที่ 21 ก.พ. และประสานตำรวจจับกุมตัวได้วันที่ 23 ก.พ. ซึ่งพนักงานสอบสวนจะคุมตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลวันที่ 25 ก.พ.
สืบเนื่องจากวันที่ 21 ก.พ.65 นางใจ (นามสมมุติ) ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า นายหนึ่ง (นามสมมุติ) สามีซึ่งเป็นพนักงานเก็บขยะประจำรถของของสำนักงานเขตแห่งหนึ่ง วันที่ 26 ก.ค.64 ขณะปฏิบัติหน้าที่เก็บขยะอยู่ที่บริเวณปากซอยนิมิตรใหม่ 6 แขวง-เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ถูก น.ส.เวียง (นามสมมุติ) อายุ 37 ปี ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมาขับรถกระบะมาพุ่งชนท้ายรถขยะจนเป็นเหตุให้นายหนึ่ง สามีและเพื่อนร่วมงานอีก 1 คน กระเด็นตกจากท้ายรถได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับรถกระบะก็ได้รับบาดเจ็บขาหัก ถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาล
ต่อมานายหนึ่งต้องผ่าตัดขาถึง 4 ครั้ง สุดท้ายหมอต้องตัดขาขวาตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงไปเพราะมีอาการติดเชื้อรุนแรง ซึ่งที่ผ่านมามีค่าใช้จ่ายในการรักษากว่า 300,000 บาท ที่ยังเป็นหนี้กับทางโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มีนบุรี เจ้าของคดีได้ออกหมายจับแล้ว เรื่องผ่านมาร่วม 7 เดือน แต่คนขับรถกระบะยังหลบหนี ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้
หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ประสาน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 และให้ผู้เสียหายไปพบเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าว ในวันที่ 22 ก.พ.65 โดย พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เร่งดำเนินการทันที ต่อมาวันที่ 23 ก.พ.65 ตำรวจ สน.มีนบุรี สืบทราบว่าคนขับรถกระบะหลังจากหายบาดเจ็บแล้วได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่ จ.ขอนแก่น จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ขอนแก่น เข้าจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และหลบหนีหมายจับ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ สน.มีนบุรี ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นางใจและสามีผู้พิการกล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้รับเงินช่วยเหลือจาก ผอ.เขต 10,000 บาท รอง ผอ.เขต 5,000 บาท เงินประกันจาก กทม. 190,000 บาท เงินประกันจากวัดจีน 90,000 บาท รวม 285,000 บาท ซึ่งทางครอบครัวมีค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษาและช่วงที่สามีไม่ได้ทำงานจำนวนมาก ตอนนี้ทุกข์หนักเพราะยังเป็นหนี้อยู่กับทางโรงพยาบาลกว่า 300,000 บาท ที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดีกับกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรม อยู่ระหว่างการพิจารณา หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือขอให้ติดต่อผ่านมูลนิธิปวีณาฯ โทร.1134, 081-814-0244, 098-478-8991
ทั้งนี้ มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดีกับทางกรมคุ้มครองสิทธิ กระทรวงยุติธรรมให้กับทางครอบครัวผู้เสียหายต่อไป.