“อนุชา” เผยแก้ปัญหาสลากเกินราคาถูกทาง เตรียมแก้ไขเกณฑ์การทำสัญญา พร้อมเดินหน้าแพลตฟอร์มจําหน่ายสลาก 16 มิ.ย.นี้
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของ คณะอนุกรรมการทั้ง 3 คณะ โดยในเบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบ มาตรการที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา ได้แก่ มาตรการทางแพ่ง มาตรการทางอาญา และมาตรการทางกฎหมายอื่นๆ โดยมาตรการทางแพ่ง ต้องมีการแก้ไขสัญญาการรับสลากไปจำหน่าย ระหว่างสำนักงานสลากฯ กับตัวแทน รายย่อย และสมาคม องค์กร
โดยเพิ่ม “หน้าที่และความรับผิดชอบ” ในการควบคุมกำกับดูแลตัวแทนจำหน่ายเพื่อแก้ไขและลดปัญหาการเปลี่ยนมือของสลาก มีวางเงิน “มัดจำ” เพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงการกำหนด “เบี้ยปรับ” กรณีมีการกระทำผิดสัญญา ซึ่งคณะอนุกรรมการจะศึกษาในรายละเอียดต่อไป และเห็นว่า การปรับแก้ไขรูปแบบของสัญญาสามารถดำเนินการได้ทันที
นอกจากนี้ ต้องมีการเพิ่มมาตรการทางอาญา โดยเห็นควรออกใบอนุญาตให้ผู้ขายสลาก รวมถึงการใช้มาตรการทางกฎหมายอื่นๆ เช่น การกำหนดฐานความผิดเพิ่ม กรณีมีการทำให้ราคาสลากมีความปั่นป่วน การขายสลากเกินราคาที่กระทำโดยเปิดเผย กฎหมายว่า ด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน การตรวจสอบการชำระภาษีอากร เป็นต้น
ในส่วนของคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหา โดยนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สรุปหัวข้อในการศึกษา ที่จะสะท้อนการศึกษาได้ตลอดทั้งกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นต้นทาง กลางทางและปลายทาง โดยเริ่มจากผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งเป็นต้นทางในการนำไปสู่การปฏิบัติที่จะทำให้มาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนของการจัดสรรสลากที่สะท้อนภาพที่แท้จริงของตลาด นอกจากนี้ ยังเสนอให้สำนักงานมีระบบลูกค้าสัมพันธ์ เพื่อให้สามารถดูแลผู้จำหน่ายสลากได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าของมาตรการต่างๆ ที่สำนักงานฯ กำลังดำเนินการ ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 ขณะนี้ให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุดใน กทม.และภาคกลาง ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 151 ราย ภาคตะวันออก 48 ราย อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญา และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกเกือบ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อให้โครงการ สลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม โดยร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย พัฒนาแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยใช้แอปถุงเงินและแอปเป๋าตัง เป็นหลัก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในงวด 16 มิถุนายน 2565 โดยสำนักงานฯ จะนำเสนอคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อให้ความเห็นชอบในวันที่ 28 เมษายน 2565 สำหรับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สำนักงานฯ เตรียมนำเสนอคณะกรรมการสลากฯ เพื่อดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียและศึกษาผลกระทบทางสังคม ประจาปี 2565 โดยระยะแรก จะรับฟังความคิดเห็น 2 รูปแบบ ได้แก่ สลากตัวเลข 3 หลัก และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก หรือแบบที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นได้กลางปีนี้
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า กรณีแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สำนักงานฯ กำลังทดสอบระบบและเริ่มดำเนินการเร็วๆ นี้ ปริมาณสลากที่จะนำเข้าจำหน่ายบนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น ควรจะมีปริมาณมากพอที่จะสร้างแรงกระเพื่อม ทำให้ความรุนแรงของปัญหาสลากเกินราคาลดลงได้อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ได้ขอให้สำนักงานฯ ศึกษาวิเคราะห์ ส่วนลดจากการจำหน่าย มีความเหมาะสมหรือเพียงพอหรือไม่อย่างไร และในส่วนของมาตรการต่างๆ ของสำนักงานฯ ที่จะดำเนินการต่อจากนี้ไป ขอให้คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างการรับรู้และสื่อสารให้ประชาชนอย่างแพร่หลายต่อไป สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบการค้าสลากออนไลน์เกินราคา ขอให้ประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมในการปิดให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดการค้าสลากเกินราคาในรูปแบบออนไลน์อีกต่อไป.