ขี้เมาเฮ!!! ศบค.อนุญาตกินดื่มได้ถึงเที่ยงคืน พร้อมเปิดด่านชายแดน 17 จังหวัดเริ่ม 1 พ.ค.นี้ ย้ำผู้ปกครองนำบุตรหลานรับวัคซีนให้ครบก่อนเปิดเทอม

พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารความเสี่ยงและพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่าในวันที่ 1 พ.ค.2565 จะมีการปรับระดับสีพื้นที่ให้เลือเพียง 2 สี คือ สีเหลืองพื้นที่เฝ้าระวังสูงจำนวน 65 จังหวัด และสีฟ้าพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยวจำนวน 12 จังหวัด ซึ่งในพื้นที่สีเหลือง อนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้จนถึงเวลา 24:00 น. เฉพาะร้านอาหารที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ หรือ Thai Stop COVID 2 Plus หรือได้ดำเนินการตามมาตรการ Covid free Setting

ทั้งนี้ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ คณะกรรมการโรคติดต่อระดับจังหวัดใน 17 จังหวัดที่มีพื้นที่ด่านชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านได้มีมติให้ เปิดจุดด่านผ่านแดนถาวรในชายแดน 17 จังหวัด  อันได้แก่จังหวัดเลย นครพนม หนองคาย มุกดาหาร บึงกาฬ ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด ตาก กาญจนบุรี ระนอง สงขลา นราธิวาส ยะลา และสตูล และเตรียมพิจารณาเปิดด่านผ่านแดนเพิ่มเติมในอีก 2 จังหวัดคือจังหวัดน่านและอุบลราชธานี

ขณะที่มาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1/2565  ที่ประชุมได้กำหนดให้สถานศึกษาเปิดเรียนแบบออนไซต์ให้ได้มากที่สุด หากพบมีผู้ติดเชื้อก็ให้ปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุ ที่ได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว ไม่จำเป็นจะต้องปิดทั้งโรงเรียน

ส่วนมาตรการเตรียมความพร้อมสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เข็มที่ 2 และเข็มกระตุ้น ให้กลุ่มผู้ที่มีอายุ 5-17 ปีนั้น โดยกลุ่มแรก 12-17 ปีนั้นมีผู้ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 4.7 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งไปแล้ว 4.3 ล้านคน หรือร้อยละ 89.9 รับเข็มที่สองไปแล้ว 3.9 ล้านคน หรือร้อยละ 81.1 แต่ได้รับเข็มกระตุ้นเพียง 7.7 หมื่นคน หรือเพียงร้อยละ 1.6 เท่านั้น ขณะที่กลุ่มอายุ 5-11 ปี มีจำนวน 5.1 ล้านคน ได้รับวัคซีนเข็มที่หนึ่งแล้ว 2.6 ล้านคน หรือร้อยละ 51.9 เข็มที่สองไปแล้วราว 5 แสนคน หรือร้อยละ 9.7 เท่านั้น จึงขอความร่วมมือไปยังผู้ปกครองทุกคนให้นำบุตรหลานไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นก่อนเปิดภาคเรียน โดยสามารถเลือกได้ว่าจะฉีดแบบครึ่งโดสหรือเต็มโดสก็ได้ตามความสมัครใจ
    
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ปรับมาตรการสำหรับผู้สัมผัสใก้ลชิดเสี่ยงสูงใหม่ คือจากเดิมผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะต้องมีการกักตัว 7 วันและสังเกตอาการ 3 วัน ปรับมาเป็นกักตัว 5 วันและสังเกตอาการอีก 5 วันและตรวจ ATK ในวันที่ 5 และวันที่ 10.