“อนุทิน” ลงพื้นที่ “บุรีรัมย์” ประชาชน 3 หมื่นต้อนรับ-ประกาศความสำเร็จ นโยบายกัญชา ตอกย้ำจุดเด่นพรรคภูมิใจไทย “พูดแล้วทำ”
วันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ บรรยากาศ งานมหกรรมกัญชา 360 องศา “ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” ภายใต้แนวคิด กัญชาคืนชีวิตสร้างเศรษฐกิจให้ประชาชน มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากกระทรวงสาธารณสุข และฝ่ายท้องถิ่น ร่วมงานเป็นจำนวนมาก มีประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จากจังหวัดบุรีรัมย์และใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 30,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่พัฒนามาจากกัญชาและกัญชง รวมกว่า 200 บูธ พบกับคลินิกกัญชาแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนปัจจุบัน โดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สมุนไพรกัญชามาให้ความรู้กับประชาชนด้านการใช้กัญชาทางการแพทย์ เพื่อรักษาและดูแลสุขภาพของตัวเองในครัวเรือน นอกจากนั้น ยังมีวิสาหกิจชุมชนตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในการปลูกพืชกัญชา กัญชงเพื่อใช้สร้างเศรษฐกิจ ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเป็นโมเดลธุรกิจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน และที่บูธสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมกับกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ได้นำต้นกล้ากัญชาและกัญชง 1,000 ต้น ไปแจกจ่ายประชาชน ในโครงการแจกกล้ากัญชา 1 ล้านต้น โดยจะนำไปแจกให้ประชาชนในงานฟรีวันละกว่า 300 ต้น
นายอนุทินกล่าวขอบคุณประชาชนชาวบุรีรัมย์ที่ทำให้นโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ของพรรคภูมิใจไทยเมื่อ 4 ปีก่อนได้เกิดขึ้นจริง พร้อมย้ำว่าอย่าไปพูดเรื่องปลูก 6 ต้น เพราะกฎหมายล่าสุดเปิดโอกาสให้ได้มากกว่านั้น เพียงแต่ต้องจดแจ้งให้ถูกต้อง สำหรับชาวบุรีรัมย์ ที่เลือกพรรคภูมิใจไทยมาแบบยกจังหวัด การที่เราเคยชูนโยบายเรื่องกัญชา แล้วชาวบุรีรัมย์เลือกกันเข้ามาแบบแลนด์สไลด์ มันได้เป็นคำสั่งจากชาวบุรีรัมย์ และประชาชน ว่าต้องทำให้นโยบายนี้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และการทำมาหากิน หลังจากกฎหมายบังคับใช้ เราได้มาที่จังหวัดนี้เป็นจังหวัดแรก นี่คือการเฉลิมฉลองความสำเร็จ ก้าวต่อไป คือ การทำให้กัญชาไทย กลายเป็นสินค้า ส่งขายทั่วโลก ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศไทย
แน่นอนว่า มีความเป็นห่วงเป็นใยต่อนโยบาย ก็ขอให้พี่น้องประชาชน ไปจนถึง อสม.ช่วยทำความเข้าใจเรื่องหลักการใช้ ให้ใช้อย่างถูกต้อง อย่าพากัญชากลับไปเข้าซอยเดิม อย่าไปใช้ในทางที่ผิดในทางมอมเมา หรือทำแล้วนั่งอมยิ้มทั้งวันไม่ทำมาหากินอะไรและขาดสติ เพราะสิ่งเหล่านั้นไม่ใช่นโยบายกัญชา นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะผลักดันเลย ขอให้พี่น้องพิจารณากันให้ละเอียด ว่าแต่ละคนมีจุดประสงค์อย่างไร แต่พรรคภูมิใจไทย ตนเอง และกระทรวงสาธารณสุข ไม่สนับสนุนให้ใช้ในทางที่ผิดแน่นอน นโยบายกัญชา เคยอยู่ในกรงขัง เอาออกมาแล้ว ก็อย่าเอากลับเข้าไปอีก ถึงเวลาแล้วที่เราต้องไม่ยอมให้ใครมาขัดขวางภูมิปัญญาของไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมียาเข้าตำรับกัญชา 8 สูตรถูกบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่อยู่ในคลินิกกัญชาซึ่งเป็นงบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) โดยที่ประชาชนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ดังนั้นหากกัญชาไม่มีประโยชน์ยาเหล่านี้ก็จะไม่สามารถขึ้นบัญชียาหลักได้อย่างแน่นอน
“นโยบายกัญชาได้รับความสนใจอย่างดี มีคนเข้าแอปฯ และเว็บฯ ปลูกกัญไปแล้ว 23 ล้านครั้ง ได้รับการอนุมัติให้จดแจ้งปลูกในครัวเรือนได้แล้ว 3.5 แสนราย ผมขอย้ำว่ามันมีคนเป็นห่วงในเรื่องว่าจะมีการใช้ไปในทางลบ ผมมั่นใจว่าก่อนที่จะมีกฎหมาย ก็มีการใช้ผิดซอยอยู่แล้ว คือ มันมีพวกที่ไม่เห็นคุณค่าของกัญชาเพียงกลุ่มเดียว แล้วเราจำเป็นต้องเลิกทุกอย่างเพราะคนกลุ่มนี้หรือไม่ ผมไม่ยอมให้คนเพียงกลุ่มเดียว มาทำลายความตั้งใจของผม และคนไทยอีกเป็นจำนวนมาก เพราะกัญชามีประโยชน์มากเหลือเกิน นโยบายมาถึงตรงนี้แล้ว พ.ร.บ.กัญชา ไปอยู่ในสภาแล้ว มีเสียงสนับสนุนล้มหลาม ต่อจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการ ในนั้นมีตัวแทนจากทุกฝ่ายการเมือง ไปจนถึงนักวิชาการ จะมาช่วยกันปรับปรุงร่าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายแนุทินกล่าว
หลังจากกล่าวเปิดงานเสร็จสิ้น ในอนุทิน และคณะได้เยี่ยมชมตามบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์กัญชา และวิถีการแพทย์พื้นบ้าน ตลอดทางมีประชาชนและผู้ประกอบการเข้ามาขอบคุณนายอนุทิน ที่สามารถปลดล็อกกัญชาได้สำเร็จ บรรยากาศการลงพื้นที่เป็นไปอย่างชื่นมื่น.