“ผบ.ตร.” สั่งตั้งศูนย์ Hotline รับแจ้งความรวมคดี ดารุมะ ซูชิ ทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT เรียกประชุม พนักงานสอบสวน บช.น., ภ.1-9, บก.ปคบ. เพื่อกำหนดช่องทางรับคำร้องทุกข์ อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหายจาก กรณี บริษัท ดารุมะ ซูจิ จำกัด หลอกขายคูปอง และแฟรนไชส์บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น พบผู้เสียหายแล้วกว่า 1,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับ บริษัท ดารุมะ ซูซิ จำกัด กับพวก กรณี หลอกลวงให้ผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อ ซื้อคูปอง ในราคา 199 บาท/คน เพื่อใช้รับประทานซูซิแซลมอนแบบบุฟเฟต์ ที่ร้าน ดารุมะ ซูซิ จำนวน 27 สาขา ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อกว่า 1,000 ราย ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท และหลอกลวงให้ผู้เสียหายซื้อแฟรนไชส์ ของบริษัทฯ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ที่ชื่อว่า ดารุมะ (daruma) โดยเสนอแบ่งกำไรให้ 10% ของยอดจำหน่าย เมื่อผู้เสียหายกับพวกหลงเชื่อจ่ายเงินให้กับบริษัทฯ ปรากฏว่าไม่สามารถใช้คูปองได้เนื่องจากบริษัทฯ ได้ปิดกิจการไปเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 และผู้ต้องหาหลบหนีไปต่างประเทศแล้ว
ต่อมา วันที่ 22 มิ.ย.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้เข้าจับกุมตัว นายเมธา ชลิงสุข ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในฐานะเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของ บริษัท ดารูมะ ซูซิ จำกัด ได้ที่บริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในขณะที่เดินทางกลับจากไต้หวัน หลังหลบหนีไปกบดานอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวต่อว่า คดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เห็นว่ามีประชาชนซื้อคูปองไปกว่า 33,000 ราย กระจายอยู่หลายพื้นที่ และพบว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ผ่านระบบการแจ้งความออนไลน์ https://www.thaipoliceonline.com แล้วกว่า 1,000 ราย เป็นการกระทำผิดที่มีรูปแบบยุ่งยากสลับซับซ้อน เกี่ยวเนื่องกันหลายพื้นที่ และมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ต่อเนื่องรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย จึงสั่งการให้ บช.ก. โดย บก.ปคบ.เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบดำเนินคดีทั้งหมด มอบหมาย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. ควบคุม กำกับ ดูแล โดยให้ทุกกองบัญชาการทำการสอบสวน รวบรวมเอกสาร และส่งสำนวนไปยัง บก.ปคบ.
ทั้งนี้ กรณีที่ผู้เสียหายที่ไปแจ้งความไว้แล้วกับตำรวจท้องที่ พนักงานสอบสวนจะทำการสอบสวนปากคำ จัดทำเอกสาร และส่งสำนวนมายัง บก.ปคบ. ส่วนผู้เสียหายที่ร้องทุกข์ผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ แอดมินจะส่งเรื่องไปยังตำรวจท้องที่ เพื่อทำการสอบสวนปากคำ จัดทำเอกสาร และส่งสำนวนไปยัง บก.ปคบ. อีกเช่นกัน ส่วนผู้เสียหายที่ยังไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ ขอให้ดำเนินการภายในวันที่ 10 ก.ค.65 เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐานส่ง บก.ปคบ.ให้ทันส่งสำนวนไปยังอัยการ
นอกจากนี้ ยังมีการเปิด ศูนย์ Hotline 06-5965-1135 เพื่อรับแจ้งเบาะแสหรือขอคำปรึกษา โดยจะมีเจ้าหน้าที่รับสายตลอด 24 ชม. และมีการตั้งกลุ่ม Line Open Chat “ผู้เสียหาย ดารุมะ ซูซิ” เพื่อให้ข้อมูลในการเตรียมเอกสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้เสียหาย
ส่วนหลักฐานที่ผู้เสียหายจะต้องนำมาให้กับพนักงานสอบสวน มีดังนี้
1.หลักฐานการโอนเงิน เช่น สลิปโอนเงิน สเตทเมนต์ หรือหลักฐานการหักชำระด้วยบัตรเครดิตของผู้เสียหายเอง (สำคัญ)
2.สำเนาบัตรประชาชนผู้เสียหาย หรือหนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ ผู้รับมอบติดอากรแสตมป์ลงนามให้เรียบร้อย
3.หลักฐานการซื้อคูปองผ่านแอปพลิเคชั่น ดารุมะ ซูซิ ผ่านที่ตั้งสาขาใด (เน้นให้ปรากฏข้อมูลคูปองที่สั่งซื้อ, ประวัติการจอง, การชำระเงิน)
4.หลักฐานการสนทนากับผู้ขาย (ถ้ามี)
5.หลักฐานที่ผู้เสียหายพบโฆษณาขายคูปองผ่านทางช่องทางใด เช่น เฟซบุ๊ก หรือ IG เป็นต้น
6.หลักฐานการปฏิเสธการใช้คูปอง (ถ้ามี) หรือหากยังไม่ได้ใช้คูปอง อาจหาหลักฐานจากข่าวว่าร้านที่ใช้บริการปิดไม่สามารถใช้บริการได้ เป็นต้น
รอง ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า การปราบปราบอาชญากรรมทางออนไลน์ เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาแนวทางป้องกันอย่างจริงจัง จึงขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเป็นเหยื่อมิจฉาชีพง่ายๆ ขอให้ตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือให้ดีก่อน ทั้งนี้หากพบเบาะแสหรือขอคำปรึกษา สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 08-1866-3000 หรือ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ www.thaipoliceonline.com.