อดีตเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ร้อง “ปวีณา” ให้ช่วยเพื่อน 2 คน พร้อมคนไทยกว่า 60 คน ที่ถูกบังคับให้ทำงานหลอกคนไทยที่กัมพูชา

วันที่ 28 มิ.ย.65 เหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ยอมจ่ายเงินไถ่ตัวเองและเพิ่งเดินทางกลับมา 1 ราย และพ่อแม่ของคนไทยที่ถูกหลอกไปอีก 4 ราย เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี

นายสิงห์ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดพิษณุโลก เหยื่อรายใหม่ที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ประเทศกัมพูชา และเพิ่งจ่ายเงินค่าไถ่ตัวเองกลับมาประเทศไทย ได้เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือเพื่อนอีก 2 คน ที่ไม่มีเงินค่าไถ่ให้กับนายจ้าง จึงยังถูกบังคับให้ทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา

นายสิงห์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีคนชักชวนให้ไปทำงานบ่อนคาสิโนที่ประเทศกัมพูชา อ้างว่ามีรายได้ดีจึงหลงเชื่อ เมื่อเดินทางไปถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ ตนเองไม่อยากทำเพราะรู้ว่าผิดกฎหมายจึงคุยกับทางนายหน้า เขาเรียกค่าไถ่ร่วม 8 หมื่นบาท แต่ขอให้ญาติส่งมาได้แค่ 3 หมื่น จึงเจรจาต่อรองกับนายหน้า และมีเพื่อน 2 คน ช่วยประกันหักจากเงินเดือนให้ ตนเองรู้ข่าวว่ามูลนิธิปวีณาฯ ช่วยคนกลับมาได้จึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์ขอให้ช่วยเพื่อนทั้ง 2 คนด้วย และนอกจากนี้ยังมีคนไทยที่อยากกลับบ้านอีกกว่า 60 คน ที่ไม่เต็มใจทำงาน

ส่วนญาติของเหยื่อ 4 ราย ประกอบด้วย
1.นางเอ อายุ 45 ปี ขอให้ช่วยลูกชายอายุ 25 ปี ถูกหลอกเดินทางไปเมื่อวันที่ 20 ม.ค.65
2.นายบี (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ขอให้ช่วยหลาสาวอายุ 27 ปี ถูกหลอกเดินทางไปพร้อมกับรายที่ 1 เมื่อวันที่ 20 ม.ค.65
3.น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ขอให้ช่วยน้องชาย อายุ 30 ปี และน้องสะใภ้ อายุ 28 ปี ถูกหลอกไปเมื่อวันที่ 12 ม.ค.65

โดยเหยื่อทั้ง 4 ราย รู้จักกัน และได้รับการชักชวนจากนายเอก (นามสมมุติ) หลอกว่าจะพาไปทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อเดินทางไปกลับถูกบังคับให้ทำงานคอลเซ็นเตอร์ ช่วง 3 เดือนแรกไม่ยอมทำก็ถูกทำร้าย และให้อดข้าว ทั้ง 4 ราย จึงต้องยอมจำใจอดทนมาถึง 6 เดือน หลังทราบข่าวการช่วยเหลือเหยื่อจึงเข้าขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ

จากกรณีพ่อแม่เยาวชนและญาติเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณาขอให้ช่วยเหลือลูกหลานกลับบ้าน เนื่องจากถูกบังคับให้ทำงานผิดกฎหมาย ทำร้ายร่างกาย และให้อดข้าว หากหลอกคนทำยอดไม่ได้

ต่อมานางปวีณาได้ประสาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ช่วยเหลือเหยื่อเยาวชนชาย-หญิง 18 คน ออกมาจากประเทศกัมพูชาได้ และเดินทางมาถึงด่านไป อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 28 มิ.ย.65 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี เหยื่อ 9 ราย ที่ช่วยเหลือกลับมาจากประเทศกัมพูชาได้เข้าพบ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอบคุณ และให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ด้านนางปวีณากล่าวว่า ตอนนี้เป็นที่ทราบทั่วกันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือต่างประเทศ ทุกคนต้องระวังตัวเอง อย่าหลงเชื่อว่าไปทำงานแล้วได้เงินเยอะ อาจจะไปถูกทำร้าย บังคับ กักขัง ไม่ให้กินข้าว เหมือนตกนรกทั้งเป็น เงินก็ไม่ได้ต้องเป็นหนี้เป็นสิน หากจะกลับก็ถูกเรียกค่าไถ่เป็นแสน และยังถูกขายต่อๆ ไป ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถช่วยได้เสมอไป และการประชาสัมพันธ์เป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง เมื่อคนที่กลับมาแล้วต้องให้ข้อมูล ให้รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น และการช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากต้องการที่จะไปทำงานต่างประเทศให้สอบถามกระทรวงแรงงานก่อน เพราะจะมีข้อมูลที่ชัดเจน.