“สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” ร่วมสนับสนุนเงิน “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ในโครงการครูวัคซีนไซเบอร์ ให้ความรู้เตือนภัย “รู้เท่าทันกลโกง” สร้างภูมิคุ้มกันประชาชน-ลดคดีอาชญากรรมออนไลน์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีเปิดการอบรมโครงการสร้างภาคีเครือข่ายป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ ห้องแจ้งยอดสุข ชั้น 2 อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากร และสวัสดิการ ตร.
สำหรับโครงการนี้เป็นการฝึกอบรมในการสร้างครูวัคซีนไซเบอร์ (ครูแม่ไก่) เพื่อไปถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่, เจ้าหน้าที่ภาครัฐ, เจ้าหน้าที่ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ให้เกิดความตระหนักรู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกงและเกิดความปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ทั้งนี้ โดยครั้งนี้มีผู้เข้ารับการอบรมจาก บช.น., ภ.1-9 หน่วยละ 11 นาย, บช.สอท. 6 นาย รวมทั้งสิ้นรวม 116 นาย จะได้นำความรู้ไปจัดฝึกอบรมให้กับผู้รับการอบรม ในระดับพื้นที่ทั้งกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ อีก 33 รุ่น จำนวน 4,468 คน และนำเอาความรู้ไปต่อยอดถึงครู-อาจารย์ในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ข้าราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้สื่อข่าว นักจัดรายการวิทยุ นักประชาสัมพันธ์หรือผู้นำชุมชนในพื้นที่ ให้เกิดองค์ความรู้ที่สามารถนำไปประชาสัมพันธ์สื่อสารต่อคนอื่นๆ
ผบ.ตร.กล่าวว่า การอบรมโครงการสร้างภาคีเครือข่ายป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และเป็นนโยบายเร่งด่วนของ ตร. ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ยังสูงขึ้น สร้างความเสียหายแก่ประชาชน และระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงจำเป็นต้องอาศัยภาคีเครือข่ายในการร่วมกันป้องกัน รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม กลโกงและเกิดความปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจึงเกิดการอบรมโครงการนี้ขึ้นโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นผู้สนับสนุนงบประมาณในการจัดอบรมตามโครงการนี้
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในระยะเวลาที่ผ่านมามีการหลอกลวงประชาชน โดยแอบอ้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวงว่ามีเลขเด็ด รู้ผลการออกรางวัลล่วงหน้า รวมถึงการแอบอ้างว่ามีโควตาสลากจำนวนมาก ซึ่งมีประชาชนหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก อีกทั้งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีการนำสลากไปจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเอกชน ทั้งการจำหน่ายเกินราคาและบางรายเป็นสลากทิพย์ คือไม่มีสลากอยู่จริง ทำให้ประชาชนผู้ซื้อสลากได้รับความเดือดร้อน โดยที่ผ่านมาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งล่าสุดได้มีเข้าจับกุมและส่งฟ้องทุกแพลตฟอร์มรวม 15 แพลตฟอร์ม และศาลมีคำพิพากษาให้สั่งปิดไปแล้ว 8 แพลตฟอร์ม เหลือรายใหญ่อีก 7 แพลตฟอร์ม
ดังนั้น โครงการวัคซีนไซเบอร์ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงเป็นการสร้างเครือข่ายการทำงาน และการรับรู้การทำงาน ตลอดจนรับทราบถึงกลโกงทางเทคโนโลยี ในการใช้กลอุบาย เพื่อหลอกลวงประชาชน ให้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อและในขณะเดียวกัน โครงการนี้จะช่วยเผยแพร่มาตรการป้องกันในรูปแบบต่างๆ ให้ประชาชนตระหนักรู้ในการระวังป้องกันตนเอง มิให้ตกเป็นเหยื่อกลโกงทางเทคโนโลยี สามารถการป้องกันระมัดระวังตนเอง และตระหนักรู้ภัยคุกคามดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อไป
และในโอกาสเดียวกันนี้ สำนักงานสลากฯ ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างใกล้ชิด ในการลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่ายและผู้ซื้อจองฯ ล่วงหน้า รวมถึงการเบิกสลากที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจำหน่ายสลากของสมาคม องค์กร ให้เป็นไปตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการนำสลากไปจำหน่ายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ หรือไม่ได้จำหน่ายด้วยตนเอง ซึ่งจะมีการตรวจสอบจากการนำสลากมาขึ้นเงินรางวัล หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อจองรายใด จะใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด.