“บิ๊กตู่” สั่งกองทัพสนับสนุนจังหวัดริมเจ้าพระยารับมือมวลน้ำที่ทยอยระบายออกจากพื้นที่อุทกภัย ย้ำช่วยเหลือต่อเนื่องให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว (ชมคลิป)​

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการทุกเหล่าทัพสนับสนุนจังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสัก รับมือกับมวลน้ำที่ทยอยระบายจากพื้นที่ประสบอุทกภัย เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยริมแม่น้ำสายหลักได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ขณะเดียวกันได้ย้ำให้ทุกเหล่าทัพ ยังคงให้การช่วยเหลือประชาชนกว่า 229,000 ครอบครัวในทุกพื้นที่ 31 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่องกันไป โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด ให้สนับสนุนติดตั้งสะพานทางทหารเร่งด่วนให้ประชาชนสามารถสัญจรได้โดยไม่ถูกตัดขาด โดยให้ประสานทำงานร่วมกับส่วนราชการ อาสาสมัครจิตอาสา และภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

พล.ท.คงชีพเปิดเผยอีกว่า ตั้งแต่ 23 ก.ย.64 ถึงปัจจุบัน กห.โดยทุกเหล่าทัพ ได้หมุนเวียนกำลังพลกว่า 10,000 นาย พร้อมเครื่องจักรและเครื่องมือช่าง เช่น รถขุดตัก เครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันน้ำ และสะพานเครื่องหนุนมั่น รวมทั้งยานพาหนะกว่า 750 คัน  เช่น รถบรรทุกลำเลียง รถบรรทุกน้ำ รถประปาสนาม รถครัวสนาม และเรือท้องแบนกว่า 200 ลำ  พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ สนับสนุนลงให้การช่วยเหลือเร่งด่วนประชาชนใน 31 จังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นพื้นที่วงกว้าง ในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย และให้การช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างในพื้นที่ ทั้งการแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้การช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ

ขณะเดียวกันกำลังพลทหารของทุกเหล่าทัพ ได้ร่วมกันบรรจุกระสอบทรายกว่า 63,500 กระสอบ จัดทำพนังกั้นน้ำและสนับสนุนเครื่องมือช่างเปิดทางน้ำ กำจัดวัชพืชบริเวณประตูน้ำและคอคอดของลำน้ำ รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเรือผลักดันน้ำ 26 ลำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงแม่น้ำสายหลักต่างๆ เพื่อลดความเสียหายให้เร็วที่สุด  พร้อมทั้งได้ติดตั้งสะพานทางทหาร จำนวน 3 แห่งและซ่อมแซมสะพานในพื้นที่ที่น้ำป่าไหลหลากและเส้นทางถูกตัดขาดในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เพชรบูรณ์ และพะเยา

สำหรับ 13 จังหวัดที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ได้จัดแบ่งกำลังลงทำงานร่วมกับจิตอาสาและส่วนราชการในพื้นที่ เร่งขนย้ายซากปรักหักพังและทำสะอาดในพื้นที่สาธารณะ พร้อมกับสนับสนุนการลงสำรวจความเสียหายและซ่อมแซมสาธารณูปโภคเร่งด่วนที่จำเป็น โดยจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือต่อเนื่องกันไปถึงการฟื้นฟูในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็วที่สุดต่อไป.