หยอกแรง!! ฉายาสภา 63 ‘ส.ว. – สภาปรสิต’
เป็นประจำทุกปี สื่อมวลชนประจำรัฐสภา จะมีฉายา ให้กับนักการเมือง คนสำคัญๆในรัฐสภา ทั้ง ส.ส. และ ส.ว.เพื่อสะท้อนบทบาทการทำหน้าที่ในสภา และปีนี้ ต้องบอกว่าปีนี้ฉายา ที่ออกมาแรงเกินคาด
- สภาผู้แทนราษฎร : ได้ฉายา “ปลวกจมปลัก”
มองว่าสภาผู้แทนราษฎร มีส.ส.ที่ทำงานดุจปลวกที่ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเองใช้สภาเป็นเครื่องมือเพื่อชิงอำนาจและทำลายล้างฝั่งตรงข้าม จมปลักวนเวียนอยูากับความขัดแย้งเดิมๆไม่ใช้สภาในทางสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน เล่นเกมการเมืองทำการประชุมล่มมาหลายครั้ง ส.ส.จึงถูกเปรียบว่าเป็น ปลวกที่จมปลักไม่พัฒนาและจะยิ่งกัดกินหลักการของประชาธิปไตยให้พุกร่อนเข้าไปทุกที
2. วุฒิสภา : สภาปรสิต
เหตุผลที่วุฒิสภา ได้ฉายา สภาปรสิต เป็นเพราะไม่มีผลงานที่เห็นด้วยตาเปล่าเหมือนปรสิต ที่มองไม่เห็น และยังใช้เงื่อนไขทางการเมือง ยื้อการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ในหลายเรื่องโดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- ‘ชวน หลีกภัย’ ประธานสภาผู้แทนราษฎร: ได้ฉายา “ครูใหญ่ไม้เรียวหัก”
สื่อมองว่าทุกครั้งที่ ‘ชวน หลีกภัย’ ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุมสภาไม่เคยถูกกังขาถึงความเป็นกลางแม้แต่ครั้งเดียว และตลอดปีที่ผ่านมาก็ยังยึดแนวทางดังกล่าวไว้ได้อย่างมั่นคง และยังสวมบท ‘ครูใหญ่’ ที่ถือไม้เรียวคอยกวดขันวินัยของส.ส.ที่หย่อนยาน เช่น การตักเตือนส.ส.ให้สวมหน้ากากในห้องประชุมสภา แต่ปรากฎว่า ส.ส.การ์ดตก หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆงดนำอาหารและเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในห้องประชุม แต่ก็ไม่อาจสร้างเปลี่ยนแปลงได้ เหมือนกับครูใหญ่ที่มีไม้เรียวและต่อให้ฟาดแรงจนไม้เรียวหักคามือ ส.ส.ก็ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวแต่อย่างใด
- ‘พรเพชร วิชิตชลชัย’ ประธานวุฒิสภา: ได้ฉายา “หัวตอ รอออเดอร์”
โดยสื่อมองว่า หากเทียบบารมีทางการเมืองระหว่างเมื่อครั้งเป็น ประธาน สนช. กับประธานวุฒิสภา ถือว่าบารมีของ ‘นายพรเพชร’ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่ขึ้นทำหน้าที่ประธานการในการประชุมร่วมรัฐสภาพบว่าไม่สามารถควบคุมการประชุมให้เป็นที่เรียบร้อยได้เมื่อเทียบกับ ‘คุณชวน หลีกภัย’ ทำให้การประชุมเกิดความปั่นป่วนเป็นระยะทำให้ ประธานวุฒิสภากลายเป็นหัวหลักหัวตอที่สมาชิกรัฐสภาไม่ค่อยให้ความยำเกรง ส่วน คำว่า รอออเดอร์ เป็นหลายครั้งคุณพรเพชรไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองให้ส.ว.เป็นผู้ชี้นำประธานวุฒิสภาแทน
5. ‘สมพงษ์ อมรวิวัฒน์’ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร : ได้ฉายา ‘สุทิน คลังแสง?’ เราไม่ได้ขึ้นCG ผิดเพราะนี่เป็นชื่อ ฉายาจริงๆ
เหตุผลที่ต้องให้ฉายานี้กับ นายสมพงษ์
เพราะถือเห็นตรงกันว่าบทบาทการเป็นผู้นำฝ่ายค้านของนายสมพงษ์ ไม่ได้โดดเด่น เมื่อเทียบกับลูกพรรคอย่าง นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ทั้งบทบาทในการเป็นประธานวิปฝ่ายค้าน และการอภิปรายที่เป็นประโยชน์ ผิดกับผู้นำฝ่ายค้านตัวจริง
- ‘สุทิน คลังแสง’ ยังได้ตำแหน่ง ดาวเด่นแห่งปี จากสื่อมวลชนรัฐสภาด้วย เพราะทำหน้าที่ได้อย่างท็อปฟอร์มให้หลายเรื่อง
- ดาวดับแห่งปี : มอบให้ ‘วิสาร เตชะธีราวัฒน์’ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย
เป็นผลมาจากเหตุการณ์ใช้มีดปลอกผลไม้กรีดแขนกลางที่ประชุมสภา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาทางกาเมือง ถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพราะเป็นการชี้นำให้ใช้ความรุนแรงแก้ไขปัญหา อีกทั้งยังเป็นส.ส.หลายสมัยและดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาก่อนที่สมควรเป็นแบบอย่างที่ดี แต่กลับแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเพื่อหวังผลทางการเมือง จึงหวังว่าตำแหน่งดาวดับที่สื่อมวลชนมอบให้จะทำให้ไม่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
- คู่กัดแห่งปี : ‘สิระ เจนจาคะ’ และ ‘มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’
มาจากเหตุการณ์เกือบ วางมวยกลางสภา ภายหลังปฐมบทแห่งความเดือดมาจากกรณีที่ ‘นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งเพราะไม่สามารถควบคุมความสงบได้ ต่อมา ‘สิระ เจนจาคะ’ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวตอบโต้ว่า “การออกมาเรียกร้องเช่นนี้ต้องการผลประโยชน์อะไรหรือหิวกล้วย หรือไม่ เกิดเหตุการณ์ที่ ‘นานมงคลกิตติ์’ ได้พบกับ ‘นายสิระ’ และเข้าไปจับแขนพยายามเดินตาม จนนายสิระเดินหนี ที่สุดแล้วต้องถึงมือ ‘ชวน หลีกภัย’ เรียกไปพบ เพื่อจบปัญหา
9. เหตุการณ์แห่งปี : การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รัฐธรรมนูญพ.ศ.2560
ซึ่งเป็นการแก้ไขท่ามกลางกระแสเสียงร้อง ของกลุ่มผู้ชุมนุม มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของภาคประชาชนนำโดยกลุ่มไอลอว์จนถูกตีตก ทำให้เกิดการชุมนุมล้อมรัฐสภา จนมีการปะทะกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มผู้ชุมนุม
- ส่วนวาทะแห่งปี : “มันคือแป้ง” เป็นคำพูดของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ชี้แจงการ การถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจากฝ่ายค้าน เมื่อวันที่ 27 ก.พ. กรณีเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดในประเทศออสเตรเลียในอดีต โดยยืนยันว่าเฮโรอีน ที่ถูกจับกุมในขณะนั้น จริงๆแล้ว “มันคือแป้ง”
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ ร.อ.ธรรมนัส เป็นรัฐมนตรีที่ได้รับความไว้วางใจจากสภาฯน้อยที่สุดเพียง 269 เสียง
11.ส่วนตำแหน่ง “คนดีศรีสภา” ปีนี้ สื่อรัฐสภาเห็นตรงกันให้ ยกเลิกตำแหน่งไปก่อน
เพราะเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่ได้มอบตำแหน่งคนดีศรีสภาให้กับสมาชิกรัฐสภา เนื่องจากท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ที่นังไม่ปรากฎว่ามีสมาชิกรัฐสภาคนใดที่จะเป็นแบบตัวอย่างที่ดีในการทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างโดดเด่น จึงมีความเห็นร่วมกันว่าสมควรยกเลิกตำแหน่งนี้ จนกว่าในอนาคตจะมีสมาชิกรัฐสภาที่มีความประพฤติที่เหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าวต่อไป.